บรรยากาศภายหลังการเสนอชื่อกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ แม้ยังไม่ได้มีมตินับคะแนนกรรมการบริหารพรรค ปรากฏว่าแกนนำกลุ่มสามมิตร นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมกับส.ส.ส่วนหนึ่ง ได้เดินออกจากห้องประชุมทันที

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวแสดงความยินดีกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดิม และมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการพรรค แทนนายอนุชา

ซึ่งมองว่า ทั้ง 2 ตำแหน่ง จะต้องทำงานให้สอดคล้องกัน เพื่อเข้าถึงคนในพรรค และทำให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร และร.อ.ธรรมนัส ที่มีความสนิทสนมกันมาก จะสามารถทำให้งานเดินหน้าต่อไปได้ดี โดยตนเองไม่ได้มีอะไรมากมาย และพร้อมให้ความร่วมมือตามแนวทางของพรรค

ส่วนการปรับโครงสร้างภายในพรรค ตรียมความพร้อมรับศึกเลือกตั้ง นั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า ถือเป็นความหวังของพรรคที่จะทำให้พรรคได้รับความนิยม ซึ่งยืนยันว่า ในส่วนของรัฐบาลที่พักรับผิดชอบอยู่จะต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเหลือเวลาเพียง 1 ปี 9 เดือน

เมื่อถามว่าหน้าฉากอาจจะยินดี แต่หลังฉากอาจจะยังคงมีความขัดแย้งกัน และยังมีกลุ่มก้อนภายในพรรคเหมือนเดิมหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า ไม่ทราบเบื้องหลังในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่า ตนเองได้ทำงานอย่างเต็มที่ ในส่วนที่ได้รับผิดชอบในกระทรวงยุติธรรม

ส่วนกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีหลังเปลี่ยนโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ นั้น ส่วนตัวเชื่อว่ายังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ทุกคนได้ทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ขณะที่กระแสการยึดกระทรวงของกลุ่มสามมิตรนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่

และเมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้รู้สึกอย่างไรที่ต้องเสียดุลอำนาจบางส่วนภายในพรรคไป นายสมศักดิ์ระบุว่า "ผมไม่ได้เสียอะไร ทุกคนมีปากมีเสียง มีแนวทาง และพล.อ.ประวิตร รับฟังทุกคน ซึ่งเมื่อหัวหน้าพรรค ตัดสินใจปรับเปลี่ยนแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค เนื่องจากเราได้ให้ความไว้วางใจท่านแล้ว"