'หลวงปู่องค์ดำ' คัมแบ็คอาศรมเดิม 'ครูต้อย' ออกโรงป้อง ยันไม่ได้ถูกหลอก ขอโทษทำให้เสียหาย

สังคม

'หลวงปู่องค์ดำ' คัมแบ็คอาศรมเดิม 'ครูต้อย' ออกโรงป้อง ยันไม่ได้ถูกหลอก ขอโทษทำให้เสียหาย

โดย weerawit_c

11 มิ.ย. 2564

60 views

บุรีรัมย์ - นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล อายุ 38 ปี หรือหลวงปู่พุทธเทพสุริยะจักรวาล หรือชาวบ้านเรียกว่า "องค์ดำ" ที่ตกเป็นข่าวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ จ.บุรีรัมย์ โดยมีคลิปหญิงสาวคนหนึ่งบุกไปชิงตัวแม่ ที่เป็นครู หนีมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมหินเพิ่ง ที่บ้านเขาย้อยพัฒนา อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์


ยังจำเหตุการณ์นี้ได้หรือไม่ เกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนเมษายน หญิงสาวคนหนึ่งบุกไปชิงตัวแม่ ซึ่งมีอาชีพครู หนีมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง ตั้งอยู่บนที่ดิน สปก.บ้านเขาย้อยพัฒนา อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีชาย อ้างตัวเป็นหลวงปู่ นุ่งห่มผ้าสีดำ เป็นเจ้าสำนัก เธอเกรงว่า แม่จะถูกหลอก เพราะหลังจากแม่มาที่นี่ เงินเดือนแม่ร่วม 1 แสนบาท ไม่เคยเหลือ แถมสร้างสำนักไว้หลังบ้านที่จังหวัดชัยภูมิ ด้วย


จากนั้นสื่อได้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบว่า ชายคนนี้ชื่อว่า นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล อายุ 38 ปี หรือที่ลูกศิษย์ลูกหาเรียกว่า หลวงปู่องค์ดำ โดยพบว่า มีพฤติกรรมอวดอุตริ อ้างว่า สามารถรักษาโรคได้ครอบจักรวาล ทั้งมะเร็ง โควิด แถมยังถูกแฉว่า เคยทำผู้หญิงท้อง ขณะไปตั้งสำนักอยู่จังหวัดศรีสะเกษ สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว หนีหน้าสื่อทุกสำนัก อ้างว่า จะไปธุดงค์ในป่า 10 ปี แล้วไปโผล่ที่ จ.สุรินทร์ แล้วย้อนกลับมาที่อาศรมที่ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ อีกครั้ง แต่มาได้เพียงวันเดียว แล้วย้ายออกจากจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.เพื่อไป จ.ชัยภูมิ เพราะต้องการไปอยู่ในที่สงบ


แต่ล่าสุดองค์ดำ ได้ย้อนกลับมาที่สำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง บ้านเขาย้อยพัฒนา ม.16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ อีกครั้งเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.โดยการกลับมาครั้งนี้มี นางธันยธร หรือครูต้อย สุวรรณเสือ อายุ 59 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ที่เคยปัญหากับกับลูกสาวครั้งร้องเรียนสื่อ ว่าแม่ถูกหลวงปู่หลอกบริจาค แล้วตามมาถึงที่สำนักที่บุรีรัมย์ ระหว่างที่พระมหาไพรวัลย์ และหมอปลาเดินทางมา ได้เดินทางมาพร้อมกีบหลวงปู่ด้วย เพื่อต้องการเปิดแถลงข่าวที่สำนักแห่งนี้


โดยก่อนการแถลงครูต้อย ได้กราบขอขมาหลวงปู่ที่ทำให้เกิดเรื่องยาวนาน หลังจากนั้น ครูต้อยได้เปิดแถลงว่า การเดินทางมาที่บุรีรัมย์ในครั้งนี้ ตนไม่ได้มาอยู่ที่นี่ แต่จะมาขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อหลวงปู่ ทำให้หลวงปู่ได้รับความเสียหาย เพราะตนเป็นต้นเหตุ


ครูต้อย เล่าด้วยว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้ถูกหลอกให้บริจาคตามที่เป็นข่าว ซึ่งได้คุยกับลูกสาวจนเข้าใจกันแล้ว ตนซึ่งมีภาระหนี้หลายอย่าง เป็นไปไม่ได้ที่จะมาบริจาคเงินเป็นหลักแสนบาท แต่ยอมรับช่วยเหลือบ้างหากจะมีการก่อสร้างแต่ไม่ได้มากเหมือนลูกสาวเข้าใจ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่งผลในทางลบกับหลวงปู่ที่ตนเคารพนับถือ ขอยืนยันตนไม่ได้ถูกหลอก หลายคนอาจไม่ทราบและพยายามโจมตี แต่ส่วนตัวรู้ซึ้งถึงคำสอนของหลวงปู่ และยังคงจะนับถือต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News