ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ปลดล็อค 'เซ็กส์ทอย' ให้ถูกกฎหมาย และมีมาตรฐาน อย.

สังคม

ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ปลดล็อค 'เซ็กส์ทอย' ให้ถูกกฎหมาย และมีมาตรฐาน อย.

โดย weerawit_c

11 มิ.ย. 2564

115 views

จากเมื่อวานนี้ 10 มิ.ย. มีกรณีผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ประเภทเซ็กซ์ทอย หรือของเล่นทางเพศ จากเพจออนไลน์มาใช้ แล้วพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้คุณภาพ ตำรวจจึงสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุมนายทวีศักดิ์ อายุ 28 ปี โดยผู้ต้องหาได้ลักลอบจำหน่ายสินค้าประเภทเซ็กซ์ทอย วัตถุ หรือสิ่งลามก โดยผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงนำหมายศาลอาญาพระโขนง ไปตรวจที่เกิดเหตุ พบของกลาง 15 รายการ รวม 169 ชิ้น ผู้ต้องหายอมรับสารภาพมีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป


ด้านหญิงสาวผู้เสียหาย วัย 28 ปี บอกว่า ระหว่างใช้อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เกิดเสียงดังขึ้น จนเซฟตี้คัต ตัดไฟในห้องทันที จากนั้นความร้อน ไหม้ผ้าห่ม จนเป็นสีดำ จึงถ่ายรูปแล้วโพสต์เตือนสังคมถึงอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยนี้ ใช้งานมา 1 ปีแล้ว คาดว่าเกิดจากการเสื่อมสภาพ เบื้องต้นอยากให้เซ็กซ์ทอยในไทยถูกกฎหมาย เพราะถ้าถูกกฎหมายอาจจะได้การรับรองมาตรฐาน และเซ็กซ์ทอยซื้อมาใช้กับตัวเองไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน


ด้านนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน บอกว่า ส่วนตัวแล้วสนับสนุน ให้มีการนำเข้า เพื่อจำหน่ายเซ็กซ์ทอย อย่างถูกกฎหมาย เพื่อให้มีกฎหมายเข้ามาควบคุมว่าจะใช้ เซ็กซ์ทอยกับบุคคลกลุ่มใดได้บ้าง และสามารถควบคุมสินค้าให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะ ศคบ.ที่จะเข้าไปดูแลได้ และยังทำให้รัฐจัดเก็บภาษีส่วนนี้ได้อีกด้วยเหมือนที่หลายๆประเทศทำกัน และเรื่องนี้ถือเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล ในมุมส่วนตัวสนับสนุนให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพราะจะเกิดประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งลดอาชญากรรม,คดีฆ่าข่มขืน,ลดปัญหาหย่าร้าง และปัญหาอื่นๆในครอบครัว


โดยกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมที่จะศึกษาการแก้กฎหมายเรื่องนี้ หากมีการร้องเรียนเข้ามา เพราะถือเป็นเรื่องสิทธิของประชาชน ส่วนที่คนบางกลุ่มมองว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ นายสิระ บอกว่า ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเมืองพุทธเช่นกัน เราควรคำนึงถึงผลประโยชน์ทางสังคมด้วย


ส่วนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวบ้านช่วยกันปั้นปลัดขิกขนาดใหญ่ไว้กลางถนน เพื่อขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาลตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน แต่ปรากฎว่ามีดราม่าซะงั้น เมื่อชาวเน็ตหลายรายบอกว่า จะกระทบต่อการจราจรและขวางถนน


วันนี้ 11 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ประตูระบายน้ำคลอง 20 หมู่ 6 ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา สอบถามนายชำนาญ แก่นทองแดง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า สิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเป็นความเชื่อทางประเพณีในท้องถิ่นที่เคยทำกันมานานหลายชั่วอายุคน เนื่องจากชาวบ้านในตำบลโยธะกา มีอาชีพทำนาเป็นหลัก ตอนนี้นาหลายหมื่นไร่ต้นข้าวกำลังยืนต้นรอฝนที่ทิ้งช่วงไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ชาวบ้านจึงชว่ยกันนำดินเหนียวแดงมาปั้นปลัดขิกเพื่อขอฝน แต่ไม่ได้ทำกันทุกปี จะทำเฉพาะในปีที่มีฝนน้อย หรือฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งเหมือนกับการแห่นางแมว แต่ในระยะหลังเลิกแห่นางแมวเพราะก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นการทรมานสัตว์


อย่างไรก็ตาม ที่มีคนเป็นห่วงเรื่องการจราจร หรือการไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครนั้น ยืนยันว่าจุดที่ปั้นปลัดขิกขึ้นมาเป็นทางตัน มุ่งหน้าลงสู่ลำคลองเพื่อเข้าไปยังประตูระบายน้ำคลอง 20 ปกติจะไม่มีรถสัญจรผ่าน ไม่ได้เป็นอย่างที่โซเชียลวิจารณ์ว่าสร้างขวางถนน จึงอยากขอให้หยุดดราม่า เมื่อก่อนชาวบ้านก็ปั้นแบบนี้ แต่ไม่มีโซเชียลจึงไม่มีปัญหาอะไร


ขณะที่นายวิชัย สิงหนาท อายุ 75 ปี ช่างปั้น บอกว่า ปลัดขิกอันนี้ชาวบ้านช่วยกันหาดินเหนียวในพื้นที่มา และชาวบ้านก็จะมาช่วยกันขุดดิน ในขณะที่ตนเองเป็นคนปั้นดินเหนียวให้เป็นรูปทรงปลัดขิก ครั้งนี้ถือเป็นการปั้นครั้งที่ 4 แล้ว โดยจะปั้นเฉพาะปีที่ฝนแล้ง ส่วนเลขที่ปรากฎด้านหลังปลัดขิกนั้น เป็นขนาดความสูงและความกว้าง ไม่ได้ใบ้หวยแต่อย่างใด ยืนยันว่าจะมีการรื้อถอนออกหลังฝนตก แต่บางปีก็ไม่ได้รื้อออก เพราะฝนตกหนักมากละลายดินเหนียวที่ปั้นอยู่ไปเองจนหมด ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ ที่เชื่อว่าหากปั้นรูปแล้ว นำธูปมาจุด 16 ดอก ทำพิธีขอก็จะทำให้ฝนตกในพื้นที่ และล่าสุดหลังจากปั้นปลัดขิกอันนี้ขึ้น เมื่อวาน 10 มิ.ย.ก็มีฝนตกลงมา

คุณอาจสนใจ

Related News