นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ได้เปิดตัวทนายความ ขอเป็นโจทย์ร่วม ในการต่อสู้คดี น้องชมพู่ โดยทีมทนายมี 4 คน ประกอบด้วย นายวินัย ชุมสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีม โดยคดีนี้ยังอยู่ในชั้นศาลพนักงานสอบสวน รอส่งอัยการ หากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็จะเป็นโจทย์ร่วม แต่หากอัยการสั่งไม่ฟ้องก็จะเป็นโจทย์ร่วม แต่หากอัยการสั่งไม่ฟ้องก็จะยื่นฟ้องเอง โดยมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือ อาชญากรรมเป็นที่ปรึกษาคดีนี้

โดยนายอัจฉริยะกล่าวว่าตนได้รับมอบหมายจากแม่น้องชมพู่ และครอบครัวให้เป็นที่ปรึกษาคดีนี้ โดยทำในนามชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยมี่ทนายความ 4 คน แยกเป็น 2 คนทำคดีน้องชมพู่ และอีก 2 คนทำคดีการปกป้องสิทธิ์ กับคนที่ละเมิดให้ร้ายกล่าวหาทั้งทางแพ่งและทางอาญา

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า กรณีที่นายสิระ เจนจาคะ จะลงพื้นที่มาบ้านกกกกอก พบแม่น้องชมพู่ นั้น ไม่ต้องลงมา เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีอาชญากรรม ไม่ใช่คดีการเมือง -ส่วนที่ลุงพล จะไปพบกรรมาธิการกฎหมายฯนั้น ไม่กังวล แม้ว่าจะมีการล้วงข้อมูลจากตำรวจ ก็ตาม หากเปรียบเทียบขณะนี้ ก็เหมือนนักมวย 2 ฝ่าย แดงกับน้ำเงิน ใส่นวมเตรียมขึ้นชก

ขณะที่นายวินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนาย กล่าวว่า ไม่ได้หนักใจในการต่อสู้คดี ตน ไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาวแต่คนที่เป็นอัศวินขี่ม้าขาวคือตำรวจและเจ้าหน้าที่พนักงานอัยการ ที่ให้ความเป็นะรรมกับผู้เสียหาย นอกจากนี้ทนายวินัย ยังบอกว่า การต่อสู้คดีน้องชมพู่ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นศึกของทนายความ ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจ เชื่อว่าเป็นแค่วาทกรรม แต่เรื่องจริงคือ แม่คือผู้สูญเสีย การโต้แย้งไม่ใช่สาระ

หลังจากนั้น ชาวบ้านกกกอก ก็ได้มอบช่อดอกไม้ให้กับทีมทนาย และพ่อแม่น้องชมพู่ เพื่อเป็นกำลังใจ