วันที่ 8 มิ.ย. 64 รายการโหนกระแส พูดคุยกับ ลูกสาวและลูกเขยของชายรายหนึ่งถูกฆ่าโบกปูนอำพรางศพในบ้านนานนับเดือน ก่อนไปเจอโดยบังเอิญ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู และ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1

โดย เอ (นามสมมติ) ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับบิดา จู่ๆ บิดาก็หายไป จึงคิดว่าไปใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาอีกคนที่ สปป. ลาว พร้อมกับ “อาม” หลานชายของผู้ตายบอกกับครอบครัวตลอดว่าพ่อไปใช้ชีวิตอยู่ที่ สปป.ลาว ที่ผ่านมา อามได้เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งพ่อของตนนั้นประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง จึงไม่แน่ใจว่ามีการยืมเงินกันหรือไม่ แต่ก็เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เนื่องจากพ่อของตนเป็นคนตัวใหญ่ ผู้ก่อเหตุขับรถไม่เป็นแต่นำรถพ่อไปขายได้อย่างไร

บี (นามสมมติ) ลูกเขยของผู้เสียชีวิต เล่าเพิ่มเติมว่า ตนจะเข้าไปทำความสะอาดบ้าน ให้น้องชายเข้าไปดูในห้อง บังเอิญเจอปูน ขณะเดียวกัน อาม หลานชายของผู้ตาย บอกกับตนว่าน่าจะโบกปูนเสื้อผ้าของเมียน้อย ซึ่งตนกลับมาคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะตนเห็นมีคราบเลือด วันรุ่งขึ้นจึงเข้าไปดูอีกรอบ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

ด้าน เก่ง และ ต้น หัวหน้าและรองหัวหน้าชุดกู้ภัยร่วมกตัญญู เผยว่า เคยมีประสบการณ์เจอเหตุคล้ายลักษณะนี้มาแล้ว จึงมั่นใจว่าน่าจะใช่ศพ จึงประสานไปยังผู้กำกับ สภ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อเห็นสภาพผ่านวิดีโอคอล จึงให้กั้นรั้วทันที จนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ หลังจากได้รับการประสานจึงเข้าไปทุบปูน เจอศพมีผ้านวม ผ้าห่มคลุมหลายผืน

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ทิ้งท้ายว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุคาดว่าประสงค์ต่อทรัพย์ ผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ตายติดเงินค่าแรงงาน วันที่ 22 เม.ย. มาทวงเงินแล้วไม่ได้ จึงฆ่าแล้วเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่ค่อยมีใครเข้าไป เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่าทำคนเดียว แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้นอำพรางศพ และลักทรัพย์