กรณีการจับกุม นายปฎิเวธ สุวรรณคีรี อายุ 42 ปี มีซึ่งดีกรีเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมี พร้อมของกลาง ยาอี 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 50 กรัมอุปกรณ์ผลิตยาอี ส่วนผสมยาเสพติดจำนวนมาก ยาอีที่ผลิตแล้วบรรจุอยู่ในถุงจำนวน 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 50 กรัม ได้ที่ห้องพัก เคหะเอื้ออาทรพระเงิน ตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งใช้เป็นโรงงานผลิตยาอี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา

พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ได้ขยายผลไปตรวจค้นห้องพักของนายปฎิเวธ หลังให้การว่ามีการซุกซ่อนเงินจำนวนมากไว้ในห้องพัก จึงนำตัวไปชี้จุดที่ซ่อนเงิน พบเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท อยู่ในถุง 4 ใบ รวมเป็นเงินจำนวน 5,327,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักลับใต้เตียงนอน นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 1 เครื่อง เพื่อตรวจสอบข้อมูล และดำเนินการต่อไป

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายปฎิเวธผลิตยาอีจำหน่ายให้กับกลุ่มนักเสพไฮโซ และยังมีพ่อค้ามารับไปจำหน่ายให้กับนักเสพตามสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร โดยมีราคาแพงกว่ายาอีทั่วไป เนื่องจากเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเสพที่มีกำลังซื้อ ซึ่งนายปฎิเวธก็เสพเองด้วย จึงสามารถคิดค้นส่วนผสมยาอีให้ออกฤทธิ์ตอบโจทย์กับนักเสพได้ ซึ่งสามารถผลิตยาอีได้มากถึงวันละ 3,000 ถึง 5,000 เม็ด

ส่วนสารเคมีที่ใช้ในการผลิตที่นายปฎิเวธอ้างว่าสั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตนั้น ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ เพราะสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดบางชนิด ห้ามจำหน่ายในประเทศ ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลว่ามีการส่งออกต่างประเทศแต่อย่างใด ซึ่งกำลังขยายผลถึงเครือข่ายว่ามีนายทุนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) ยึดไอซ์ น้ำหนัก 520 กรัม ที่ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพาย จำนวน 7 ใบ ที่ซุกซ่อนในกล่องพัสดุ ได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เตรียมส่งไปยังประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าได้ประสานข้อมูลกับ ป.ป.ส. เพื่อร่วมกันติดตามผู้ที่ส่งพัสดุดังกล่าว

ซึ่งเบื้องต้นพบชื่อผู้ส่งและผู้รับ แต่คาดว่าน่าจะใช้ชื่อปลอมเพื่ออำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่ จึงต้องไปตรวจสอบบริษัทรับส่งพัสดุต้นทาง เพื่อติดตามตัวคนที่ส่งพัสดุ เพื่อขยายผลต่อ ขณะที่ ป.ป.ส. จะส่งข้อมูลคดีนี้ให้ตำรวจนิวซีแลนด์ เพื่อทำการสืบสวนขยายผลกับกลุ่มผู้รับปลายทางต่อไป โดยวันนี้ (7 มิ.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะแถลงข่าวความคืบหน้าคดีนี้ รวมทั้งภาพรวมผลการปราบปรามยาเสพติดด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจออสเตรเลียตรวจยึดยาไอซ์ 316 กิโลกรัม ที่ท่าเรือในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยพบว่าส่งมาจากประเทศไทย คดีนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มากกว่า 10 คน ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี อีกทั้งยังรอรายงานผลการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจากทางการออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการนำมาประกอบการขอศาลอนุมัติหมายค้น และหมายจับต่อไป

อย่างไรก็ตาม ป.ป.ส.ได้รวบรวมสถิติการตรวจยึดตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงปัจจุบัน ยึดไอซ์ 29,369 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 2,387 กิโลกรัม และยังตามตรวจยึดยาเสพติดในท่าอากาศยานและท่าเรือ ที่เตรียมส่งไปต่างประเทศ มีไอซ์ 46.53 กิโลกรัม, เฮโรอีน 267.97 กิโลกรัม และกัญชา 2.22 กิโลกรัม แต่ก็ยังมียาเสพติดบางส่วนที่หลุดรอดออกไปประเทศที่ 3 ได้สำเร็จ เช่น มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย แต่ก็เป็นปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับที่ตรวจยึดได้ในประเทศข้างต้น

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/apIqgl7-ivI