กรณีชายอายุ 50 ปี ที่จังหวัดนนทบุรี เสียชีวิตขณะออกไปหาปลา หลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ 5 วัน ล่าสุด สปสช.ได้จ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวแล้ว

โดยคณะอนุกรรมการพิจารณา มีความเห็นว่านายสมชาย ม่วงวัง อายุ 50 ปี ผู้เสียชีวิต มีอาการแน่นหน้าอกตลอด และเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนโควิด 19 เพียง 5 วัน ทั้งที่ตลอดมาสุขภาพร่างกายแข็งแรง ผู้ได้รับผลกระทบเป็นหัวหน้าครอบครัว ที่ต้องดูแลบิดา มารดา และเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัว จึงลงมติเสนอจ่ายเงินช่วยเหลือ 4 แสนบาท

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสถาพร ม่วงวัง อายุ 27 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิตว่า เมื่อช่วงเช้ามีเงินจำนวน 4 แสนบาท โอนเข้ามาในบัญชี หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จาก สปสช.โทรมาแจ้งว่า มีการโอนเงินเยียวยาแล้ว พร้อมขอโทษที่ไม่ได้เดินทางมามอบด้วยตนเอง และเงินเข้าช้า เนื่องจากมีภาระกิจในหลายพื้นที่

นายสถาพร บอกว่าดีใจที่ได้เงินส่วนนี้มา ก็จะนำเงินส่วนนี้ไปดูแลปู่กับย่า ที่มีโรคประจำตัว และใช้จ่ายในครอบครัว พร้อมขอบคุณไปยังหน่วยงาน ที่ไม่ใส่ใจและไม่ทอดทิ้งผู้ได้รับผลกระทบ

ด้านพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ก็บอกว่ากรณีวัคซีนที่เกิดขึ้นกับลูกชาย ขอให้เป็นบทเรียน หากใครมีโรคประจำตัวก็ให้พิจารณาให้รอบคอบ แต่ก็ดีใจที่ภาครัฐไม่ทิ้ง

ส่วนกรณีของ นายอุดร เย็นจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ห้วยม้า อ.เมืองแพร่ เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ต่อมาคืนวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 มีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน นำส่งตัวโรงพยาบาลแพร่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ล่าสุด สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด และพิจารณาให้ความช่วยเหลือแล้ว 4 แสนบาท

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสปสช.ย้ำ ให้แพทย์เยียวยาผู้แพ้วัคซีนโควิด เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ ก่อนพิสูจน์ผลทางการแพทย์ว่า เกิดจากแพ้วัคซีนหรือไม่

โดยสำหรับเกณฑ์จ่ายเงินเยียวยาผู้แพ้วัคซีนของสปสช.เสียชีวิต, ทุพพลภาพถาวร จ่าย 400,000 บาท, สูญเสียอวัยวะหรือพิการ จ่ายไม่เงิน 240,000 บาท, บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายเยียวยาไม่เกิน 100,000 บาท

นพ.จเด็จ กล่าวว่า การยื่นขอรับเงินเยียวยาเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งขั้นตอนการขอรับเงินเยียวยาก็ไม่ยุ่งยาก เพียงกรอกแบบฟอร์มแล้วยื่นให้ที่โรงพยาบาลที่ไปฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสำนักงานเขตของ สปสช. ตอนนี้มียื่นเรื่องเข้ามาแล้ว 260 ราย จ่ายเยียวยาไปแล้ว 162 ราย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/lZWiO5W0D0A