ความคืบหน้ากรณี นางสาวทิศกร พันธ์สำโรง หรือน้ำค้าง อายุ 29 ปี ชาวอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา และภายหลังฉีดไป 2 วัน เกิดเป็นลมล้มลงหมดสติขณะเดินซื้อของภายในตลาด

ต่อมาผลเอ็กซเรย์พบมีเลือดออกในโพรงสมอง และมีความผิดปกติในเส้นเลือดสมอง บริเวณรอยต่อระหว่างเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำ ขณะนี้อาการยังไม่รู้สึกตัว ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางญาติเชื่อว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีน และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือให้นางสาวทิศกรกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

ต่อมาผลเอ็กซเรย์พบมีเลือดออกในโพรงสมอง และมีความผิดปกติในเส้นเลือดสมอง บริเวณรอยต่อระหว่างเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำ ขณะนี้อาการยังไม่รู้สึกตัว ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางญาติเชื่อว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีน และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือให้นางสาวทิศกรกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

โดยส่วนตัวหลานเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ตนคิดว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีนซิโนแวคอย่างแน่นอน เพราะเพิ่งฉีดเป็นเข็มแรก ส่วนตัวของตนนั้นยังไม่ได้วัคซีน และก็ต้องขอคิดทบทวนใหม่อีกครั้งว่าจะฉีดวัคซีนดีหรือไม่ ขณะนี้แม่ของนางสาวทิศกรต้องดูแลเลี้ยงหลาน ซึ่งเป็นลูกชายของนางสาวทิศกร วัย 1 ขวบ 5 เดือนไปก่อน ช่วงนี้ลูกของนางสาวทิศกรก็บ่นคิดถึงแม่อยู่ตลอดเวลา ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหลือนางสาวทิศกรให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ล่าสุดบ่ายวานนี้ (3 มิ.ย.) นายแพทย์ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน 2564 คณะผู้เชี่ยวชาญเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน ที่มีศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เป็นประธาน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดสมอง ได้พิจารณาถึงกรณีของน้องน้ำค้าง

จากรายงานการสอบสวนโรคและภาพถ่ายเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวมีภาวะผิดปกติที่มีกลุ่มหลอดเลือดแดงต่อกับหลอดเลือดดำในสมอง (Arteriovenous malformation) ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติมาแต่กำเนิด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะ ไม่แสดงอาการ มักมาพบแพทย์และตรวจพบเมื่อหลอดเลือดผิดปกติเหล่านี้แตก ซึ่งอาการจะขึ้นกับตำแหน่งที่มีการแตกของหลอดเลือดในสมอง หรืออาจมี ชัก ปวดศีรษะ ร่วมด้วยได้

ในคนทั่วไปพบภาวะนี้ได้ประมาณ 10 - 18 ราย ต่อประชากรแสนคน และบุคคลที่มีความผิดปกติดังกล่าว มีโอกาสที่จะเกิดเลือดออกในสมองได้ประมาณร้อยละ 2 - 4 ต่อปี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการพิการหรือเสียชีวิตในผู้ป่วยกลุ่มนี้

สำหรับผู้ป่วยรายนี้ จากผลการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง พบภาวะเลือดออกในสมอง และตรวจพบความผิดปกติที่กลุ่มหลอดเลือดแดงต่อกับหลอดเลือดดำที่สมอง ซึ่งมักเป็นภาวะผิดปกติแต่กำเนิด ความเห็นของคณะผู้เชี่ยวชาญฯ

จึงสรุปว่า สาเหตุของการเกิดอาการดังกล่าวเป็นจากรอยโรคเดิมที่เป็นอยู่ ทำให้มีเลือดออกในสมอง และไม่เกี่ยวข้องกับวัคชีนหรือการฉีดวัคชีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญภายหลังการได้รับวัคซีน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_z9zKT1lpzQ