พ่อเห็นรอยสักศพถูกรถชน คิดว่าลูกตาย สุดท้ายลูกโผล่กลางงานศพ ถึงรู้จำผิด

สังคม

พ่อเห็นรอยสักศพถูกรถชน คิดว่าลูกตาย สุดท้ายลูกโผล่กลางงานศพ ถึงรู้จำผิด

โดย passamon_a

3 มิ.ย. 2564

28 views

รถเหยียบหัวเละ พ่อเห็นรอยสัก เชื่อเป็นลูกชายถูกรถชนดับ รับศพมาจัดงานที่บ้าน กางเต็นท์ เตรียมอาหาร นิมนต์พระสวดเช้า ได้แค่ครึ่งวัน มีคนมาทวงเอาศพกลางงาน สุดท้ายลูกชายตัวเป็น ๆ โผล่กลางงานศพ ถึงบ้างอ้อ จำศพผิด เสียเงินค่าจัดไปแล้วกว่า 70,000 บาท จะต้องวุ่นอีกเพราะแจ้งตายแล้ว เบิกเงินฌาปนกิจศพมาแล้ว


วันที่ 2 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านซาด ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากมีการจัดงานศพผิดตัว และอยากให้เป็นกรณีศึกษากับคนทั่วไป


จากการตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 51 บ้านซาด หมู่ 7 ต.สระบัว อ.แคนดง พบมีพระสงฆ์กำลังสวดภายในงาน มีการกางเต็นท์ มีแม่ครัวกำลังประกอบอาหารกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางรอยยิ้มของคนที่มาร่วมงาน


สอบถามทราบว่า พระที่กำลังสวดอยู่นั้น เพิ่งเปลี่ยนบทสวด จากการสวดงานศพมาเป็นงานทำบุญต่ออายุ ให้กับ นายสงัด หรือล้าน สายวัน อายุ 38 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนช่วงกลางคืนมาถึงตอนเช้า นายล้าน เป็นคนที่พ่อแม่เอารูปภาพมาตั้งหน้าโลงศพ เพื่อจัดงานศพให้


นายไพรัตน์ สายวัน อายุ 61 ปี พ่อนายล้าน เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. มีชาวบ้านมาแจ้งตนว่า ให้ไปดูศพคนถูกรถชนตายที่ ถนนสายแคนดง-สตึก เพราะมีรูปร่างคล้ายกับนายล้าน ลูกชาย


ประกอบกับลูกชายได้หายออกจากบ้านไปได้ 2 วันที่ผ่านมา และลูกชายซึ่งเป็นคนชอบดื่มเหล้า มักจะชอบเดินริมถนนเวลาเมา แต่เมื่อไปดูศพไม่มีเค้าโครงของใบหน้าเหลืออยู่ เพราะถูกรถทับแหลกเหลว


ตำรวจจึงพยายามให้ดูอย่างละเอียดถึงตำหนิ เมื่อเห็นรอยสักที่แขนซ้าย จึงคิดว่าน่าจะเป็นลูกชายของตนเองที่หายออกจากบ้านไป จึงไปติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลแคนดง ตามขั้นตอน


จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้ดำเนินการแทนทั้งหมด ตั้งแต่การยืมโลงเย็น การเตรียมเต็นท์รับแขก การเตรียมวัตถุดิบทำอาหารเลี้ยงแขก รุ่งเช้าได้นิมนต์พระมาสวดที่งาน จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งตายที่อำเภอแคนดง เพื่อนำเอาหลักฐานไปขอรับเงินฌาปนกิจศพประจำตำบล เบื้องต้นได้มาประมาณ 70,000 บาท เอาไปซื้อหมู และเป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ


ต่อมาได้มีชาวบ้านอีกหมู่บ้านหนึ่งมาขอดูศพ เพราะเกรงว่าศพในโลงจะเป็นศพญาติของเขาที่หายตัวไปเช่นกัน ตนไม่ให้ดูเพราะหมอสั่งไว้ว่าไม่ให้เปิด เพราะสภาพศพไม่อยู่ในสภาพปกติ คนกลุ่มนั้นได้กลับไป


นายไพรัตน์ เล่าต่อว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ชาวบ้านที่อยู่ในงาน ต่างแตกตื่น อลหม่านกันทั้งงาน บางคนวิ่งหนี เพราะเห็นนายล้าน ลูกชายของตัวเอง ขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างขับเข้าในงาน ที่กำลังจัดงานศพอยู่ จึงเข้าไปสอบถามและลูบคลำลูกชาย พบว่าเป็นลูกชายจริง ๆ ไม่ใช่ผี จึงเชื่อว่าน่าจะเอาศพมาผิด จึงแจ้งโรงพยาบาลให้ไปรับศพกลับไป แล้วเปลี่ยนจากงานศพมาเป็นงานทำบุญต่ออายุให้ลูกชาย


ขณะที่นายสงัด หรือล้าน สายวัน เล่าว่า ตนออกบ้านไปได้ 2 วัน เพราะไปเล่นกับเพื่อน เมื่อเข้าบ้านเห็นมีการจัดงาน เบื้องต้นคิดว่าไม่พ่อหรือแม่ น่าจะเสียชีวิต แต่เมื่อมาดูรูปภาพที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพ กลับพบว่าเป็นภาพของตัวเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี จะได้หมดเคราะห์หมดโศกไป


ด้าน นางปฐม พูลวงศ์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้ไปตามเอาศพภายในงาน เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านถ่ายภาพศพคนถูกรถชนลงเฟชบุ๊ก เมื่อเห็นภาพรู้ทันทีว่าเป็น นายปองพล หรืออ๊อด พูลวงศ์ อายุ 35 ปี น้องชายของตัวเองที่หายตัวไปเช่นเดียวกัน


เมื่อไปสอบถามโรงพยาบาลแคนดง ได้คำตอบว่ามีคนไปรับศพมาแล้ว จึงขอไปดูศพ พร้อมกับแจ้งตำหนิให้กับหมอทราบว่า มีแผลเป็นที่มือ และนิ้วเท้าด้วน โดยหมอแจ้งว่าตรงกับคำบอกเล่า จึงรับศพน้องชายไปฌาปนกิจศพที่บ้านเกิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องอลเวง โชคดีที่รู้ทันและไปตามก่อนที่จะมีการฌาปนกิจศพ


คุณอาจสนใจ

Related News