กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สังคม

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดย kodchaporn_j

1 มิ.ย. 2564

47 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 1 - 4 มิถุนายน 2564


วันนี้ เวลา 09.14 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมค่ายพระราม 6 อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ทรงติดตามความก้าวหน้า โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนตชด. ลำดับที่ 1013 ที่ทรงติดตามความก้าวหน้า


โดยในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้โรงเรียนตชด.พื้นที่ต่างๆ เปิดสอนตามปกติไม่ได้ แต่ยังคงมีการติดตามดูแลและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามรูปแบบตามวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอล เช่น การติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียนฯ ในครั้งนี้ ปัจจุบันโรงเรียนเปิดสอนในระดับปฐมวัยถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 161 คน ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ได้อบรมครู เพื่อเพิ่มทักษะการสอน


ส่งผลให้ปีการศึกษา 2563 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลคะแนนโอเน็ตวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น จากการแก้ปัญหาด้วยกิจกรรมแจกรูปสะกดคำในห้องสมุด เพื่อเพิ่มทักษะการอ่านออกเสียง ให้กับนักเรียนที่เป็นชาวไทยภูเขาใช้ภาษาไทยได้ดีขึ้น และใช้บริการห้องสมุดมากขึ้น สำหรับกิจกรรมส่งเสริมทักษะอาชีพ มีการทำกล้วยฉาบ โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดซื้ออุปกรณ์ และวัตถุดิบ นอกจากนี้ ครูใหญ่ได้ริเริ่ม และส่งเสริมแปรรูปกาแฟโรบัสต้าที่มีมากในท้องถิ่น โดยรับซื้อกาแฟจากชาวบ้านมาคั่ว และจำหน่ายแก่ร้านค้า ทั้งในและต่างจังหวัด


ที่โรงเรียนยังมี “สุขศาลาพระราชทาน” ให้บริการแก่นักเรียน และประชาชนในถิ่นทุรกันดาร มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพระราชทาน ซึ่งเป็นศิษย์เก่า คอยให้บริการ โรคที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ ท้องร่วง และมาลาเรีย


สำหรับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ นำผลผลิตมาแปรรูปเป็นอาหารกลางวันอย่างเพียงพอ และขยายผลการเรียนรู้สู่ชุมชนจนประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้โรงเรียนได้รับรางวัลชนะเลิศ กลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น และที่ปรึกษายุวเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2564 ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินโครงการจัดหาน้ำช่วยเหลือโรงเรียน และชุมชน เพื่อสนองพระราชดำริ ตามโครงการฝายบ้านป่าหมากพร้อมระบบส่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อแล้วเสร็จจะเอื้อประโยชน์ต่อการอุปโภคบริโภค และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนฯ และพื้นที่ทำกินของราษฎรบริเวณใกล้เคียง


โอกาสนี้ ผู้มีจิตศรัทธา และหน่วยงานภาคเอกชน ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ เพื่อพระราชทานแก่ครู และนักเรียนโรงเรียนตชด. รวม 222 โรงเรียนทั่วประเทศ


จากนั้นเวลา 13.00 น. เสด็จลง ณ ศาลาเริง วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู อำเภอหัวหิน ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โรงเรียนแห่งนี้ สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 เปิดสอนชั้นปฐมวัย ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 215 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง


ในปี 2559 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียน และพระราชทานพระราชดำริ ให้กรมชลประทานดําเนินการจัดหาน้ำ เพื่อช่วยเหลือโรงเรียน และราษฎร ให้มีน้ำใช้เพียงพอ ซึ่งสำนักงาน กปร. ได้ดำเนินโครงการขุดลอกฝายห้วยป่าเลา ขุดสระน้ำ สร้างอาคารประกอบ และคลองส่งน้ำแล้วเสร็จ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา


ส่งผลให้ฝายห้วยป่าเลา และสระเก็บน้ำเดิมที่เคยมีสภาพตื้นเขิน เก็บกักน้ำได้เต็มศักยภาพ ทำให้โรงเรียนมีน้ำใช้อุปโภคบริโภค ช่วยบรรเทาความแห้งแล้ง ในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ได้เป็นอย่างดี และได้มีพระราชดำรัสว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงฝากให้ดูแลเรื่องน้ำ ซึ่งกรมชลประทานช่วยได้มาก ด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็ก พบว่าโรงเรียนได้จัดสอนเสริมช่วงวันหยุด พร้อมติดตามเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อประสานผู้ปกครองช่วยเน้นย้ำเรื่องทำการบ้าน


ด้านโครงการส่งเสริมสหกรณ์ มีสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ และสำนักงานตรวจบัญชีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วยถ่ายทอดความรู้ การทำบัญชีเกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตร จำหน่ายผ่านระบบสหกรณ์ สร้างรายได้ปันผลหุ้นให้แก่สมาชิกทุกปี และยังมีกิจกรรมฝึกอาชีพ สอนเย็บหน้ากากผ้า , ทำกล้วยฉาบ , สกรีนกระเป๋าลดโลกร้อน และแปรรูปกระเจี๊ยบ ซึ่งปลูกมากในชุมชน ช่วยสร้างรายได้เสริม


ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ปัจจุบันประสบปัญหาช้างป่าเข้าทำลายแปลงเกษตร และไม้ผล โรงเรียนได้น้อมนำพระราชดำริ เรื่องการบูรณาการความร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จัดชุดเฉพาะกิจ ชุดจิตอาสาป้องกันช้างป่า ทำแนวโป่งเทียมอาหารให้ช้างป่า และแนวรั้วลวดหนาม เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้น ช่วงฤดูฝนจะปลูกพืชอาหารช้าง ในพื้นที่ห่างไกลชุมชน เพื่อเป็นแผนป้องกันในระยะต่อไป โอกาสนี้ ได้พระราชทานพระราโชวาท เรื่องการขยายความรู้สู่ชุมชน

คุณอาจสนใจ