หลังจากที่วานนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งอยู่ระหว่าง ร้องทุกข์กล่าวโทษขบวนการ นำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ อยู่ที่ ปปป.

และรู้ว่าถูกศาลจังหวัดพระครศรีอยุธยา ออกหมายจับในข้อหา ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา ในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากกรณีที่ไลฟ์สดใส่ร้ายศาลว่า มีการล็อกผู้พิพากษา เพื่อช่วยให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชน จนชนะคดี

ต่อมา นายทนายสุกิจ พูนศรีเกษม ได้นำคลิปดังกล่าว ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ ทำให้นายอัจฉริยะเดินทาง ไปมอบตัวกับตำรวจ ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในเวลาต่อมานั้น

นายอัจฉริยะเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นการออกหมายจับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการยื่นหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล โดยก่อนหน้านี้มีการส่งหมายเรียกไปที่บ้านของตน ที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่อ้างว่า บ้านของตนถูกรื้อถอนไปแล้ว ไม่มีหลักแหล่ง ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.สำโรงใต้ จึงทำเอกสารและได้ยื่นต่อศาลขอออกหมายจับตน

ทั้งนี้ตนมีหลักฐานการจ่ายค่าน้ำค่าไฟและผู้ใหญ่บ้านยืนยันได้ว่าตนอยู่บ้านหลังดังกล่าวมาตลอด 10 ปี โดยตนจะฟ้องร้องพนักงานสอบสวนของทั้ง 2 โรงพัก ที่ยื่นหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล

ที่สำคัญตนรู้สึกรับไม่ได้ ที่หมายจับของตน ถูกเผยแพร่ไปสู่บุคคลอื่น ทั้งที่หมายจับอยู่กับพันตำรวจเอกประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา จึงขอฝากถึง พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าหมายจับของตนถูกเผยแพร่ไปให้คนอื่นได้อย่างไร ขอยืนยันว่าการที่ตนถูกออกหมายจับในคดีนี้ เพราะมีใบสั่ง มีการทำพยานหลักฐานเท็จ ซึ่งตนจะขอสู้คดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่เพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ รูปและข้อความ หลังจากที่นายอัจฉริยะ ถูกออกหมายจับ โดยหนึ่งในั้น เป็นบทกลอนของศรีปราชญ์ คือ ธรณีนี่นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหารเราชอบ เราบ่อผิดท่านมาล้าง ดาบนั้นคืนสนอง

รวมถึงข้อความถ้าคุณรู้ว่าผมโทรคุยกับใครแล้วคุณจะหนาว เตือนแล้วนะอย่ามาแหย่เสือหลับ แล้วจะรู้นรกมีจริง