เวียดนามเร่งควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในนครโฮจิมินห์ โดยจะตรวจเชิงรุกให้กับประชาชนทุกคนในโฮจิมินห์ พร้อมทั้งใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

เวียดนามเป็นหนึ่งประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรับมือโควิด-19 ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดแรกๆต้นปีที่แล้ว แต่สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว สาธารณสุขเชื่อว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่เพิ่งพบ เป็นเชื้อกลายพันธุ์ลูกผสมระหว่างอังกฤษและอินเดีย ที่ทำให้การแพร่ระบาดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์ลูกผสมนี้สามารถแพร่กระจายทางอากาศได้เร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น

นครโฮจิมินห์ เป็นศูนย์กลางธุรกิจของประเทศและมีประชากรถึง 13 ล้านคน และเป็นจุดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด โดยคลัสเตอร์ใหญ่อยู่ที่โบสถ์โปรเตสแตนท์ ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อ 125 คนแล้ว

ในวันนี้ (31 พ.ค.) นครโฮจิมินห์เริ่มใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเป็นเวลา 15 วัน โดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ทางการมีแผนที่จะตรวจโควิดเชิงรุก ให้กับชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ทุกคนด้วย โดยจะต้องตรวจให้ได้วันละ 1 แสนคน และใช้เวลามากกว่า 4 เดือนจึงจะตรวจได้ทั้งหมด

นอกจากที่นครโฮจิมินห์ เมืองอื่นๆ ก็มีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน ตั้งแต่ห้ามอยู่รวมกันเกินกว่า 10 คนในที่สาธารณะ , ปิดสวนธารณะของรัฐ และธุรกิจที่ไม่จำเป็น งดกิจกรรมทางศาสนา และขอให้ผู้ที่อายุ 60 ปี และ 60 ปีเป็นต้นไปให้อยู่แต่ในบ้าน

สองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เวียดนามพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 3,500 คน เสียชีวิตไป 12 คน ยอดผู้เสียชีวิตในเวียดนามตอนนี้อยู่ที่ 47 คน ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 7,107 คน รักษาหาย 2,950 คน

เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) เวียดนามได้ตรวจโควิดเชิงรุก และเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงให้มากที่สุดในพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดบั๊กนิญ และ แบคเกียง ที่มีประชากรอยู่หนาแน่นและเป็นโซนอุตสาหกรรม เมื่อวานนี้แรงงานที่ทำงานให้กับบริษัทซัมซุง (Samsung) แคนนอน (Canon) และลักซ์แชร์ (Luxshare) ได้มาตรวจโควิดหลายแสนคน

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/yNXDB26sTdQ