เปิดเบื้องหลังขบวนการค้า 'ลิงแสม' ส่งนอก ทำเมนูเปิบพิสดาร ด้านกรมอุทยานฯ ตั้ง รพ.สนามไว้รักษาแล้ว

สังคม

เปิดเบื้องหลังขบวนการค้า 'ลิงแสม' ส่งนอก ทำเมนูเปิบพิสดาร ด้านกรมอุทยานฯ ตั้ง รพ.สนามไว้รักษาแล้ว

โดย pichaya_s

29 พ.ค. 2564

393 views

ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองปราบปรามตามช่วยเหลือลิงแสม 102 ตัว ได้ที่ถนนสาย 359 ช่วงอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งถูกขบวนการค้าสัตว์ป่าดักจับมาจากในป่าภาคกลางหลายจังหวัด แล้วขนใส่ลังขนาดเล็ก วางอัดมาในตู้เก็บของหลังรถกระบะถึง 17 ลัง ซึ่งจังหวะที่เปิดตู้หลังกระบะออกมา พบว่าในแต่ละลังจะมีลิงอยู่ในถุงตาข่ายสีฟ้านอนอัดแน่นลังละ 7-8 ตัว บางตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส และบางตัวก็ตายเพราะขาดอากาศหายใจ สุดท้ายเมื่อนำออกมาทั้งหมดพบว่า ลิงแสมตายไปถึง 18 ตัว อาการสาหัส 4 ตัว และอีก 80 ตัวอ่อนเพลียอย่างมาก ต้องให้สัตวแพทย์เข้ามาตรวจสอบและเร่งฟื้นฟูในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 จังหวัดนครนายก


พันตำรวจเอก บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ชุดจับกุม เล่าถึงวินาทีเปิดประตูออกมาเจอลิงแสมว่า ท้ายรถปิดทึบ อากาศไม่ถ่ายเท ทำให้ลิงหลายตัวอยู่ในสภาพอิดโรย บางตัวชักเกร็ง และตายไปต่อหน้า หลายตัวหน้าเต็มไปด้วยแผล ซึ่งเกิดจากความพยามใช้ปาก และจมูกดันเพื่อเปิดตะกร้าจนเป็นแผล พร้อมเปิดเผยว่า ตำรวจเฝ้าสังเกตรถยนต์คันนี้มา 20 วัน พบว่าวิ่งระหว่างจังหวัดพิจิตรกับสระแก้ว ไม่ต่ำกว่า 10 เที่ยว และมีรถเสก๊าหน้าคอยสำรวจเส้นทางให้ก่อน ตำรวจจึงสะกดรอยและเข้าจับ นาย ภานุพงศ์ จูสิงห์ คนขับรถได้ ที่อำเภอศรีมหาโพธิ ขณะไปส่งสินค้าที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว


ทุกครั้ง นาย ภาณุพงศ์ จะไปรับลิงแสมครั้งละมากกว่า 100 ตัว จากบ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองพิจิตร จากนั้น จะขับรถโดยใช้เส้นทางจากอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร วิ่งเส้นทางหลัก อย่างสายเอเชีย โดยมีปลายทางไปยังอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 540 กิโลเมตร ก่อนที่จะรถกระบะอีกคันมาจอดรอ แล้วสลับรถกับคนขับอีกคน เพี่อขับกลับมาที่จังหวัดพิจิตร ส่วนรถขนลิง จะขับข้ามไปยังกัมพูชา เพื่อนำไปเป็นอาหารเมนูเปิบพิสดารในประเทศเพื่อนบ้าน


พันตำรวจเอก บุญลือ บอกว่า ขบวนการนี้น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10 คน มีนายทุนของไทย เป็นผู้ว่าจ้างเจ้าของบ้านในอำเภอเมือง พิจิตร ไปรวบรวมลิงแสมมา จากพื้นที่ต่างๆ ทั้งในจังหวัดพิจิตร และนครสวรรค์ เมื่อได้ลิงครบ 100 ตัวขึ้นไป จะบรรทุกใส่ลังแล้วให้คนขับรถมารับไปส่งที่อำเภอวัฒนานคร แล้วมีคนมาขับรถต่ออีกทอดข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งราคาลิงแสมหากอยู่ในไทยตกตัวละ 2,000 บาท แต่เมื่อขนข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านจะอยู่ที่ตัวละ 5,000 บาทเลยทีเดียว และขบวนการนี้นอกจากจะขนลิงแสมแล้ว ยังลักลอบขนสัตว์ป่าอีกหลายชนิดตามแต่ออเดอร์


ทั้งนี้ ขบวนการลักลอบค้าสัตว์ข้ามชาติ ในช่วงหลังมานี้ เริ่มกลับมาลักลอบขนเพิ่มมากขึ้น จึงต้องยิ่งจับตาเป็นพิเศษ รวมถึงต้องเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ เพื่อตัดต้นตอของขบวนการดังกล่าว ขณะที่ลิงแสมทั้ง 84 ตัวที่รอดชีวิต ในจำนวนนี้มี 4 ตัวที่อาการหนัก ตอนนี้ทั้งหมด ย้ายมารักษาและฟื้นฟูที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 นครนายก ซึ่งเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) นายแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล๊อต นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า และทีมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้าไปตรวจดูอาการของลิงทุกตัว แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ


โดยนายแพทย์ภัทรพล หรือหมอล๊อต กล่าวว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามสัตว์ป่า เพื่อกู้ชีพรักษา ตรวจโรค และเก็บตัวอย่างตรวจสุขภาพลิงของกลางทั้งหมด ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ อยู่ระหว่างการเก็บตัวอย่างตรวจสุขภาพ รวมถึงการตรวจโรคทั้งหมด 80 ตัว ลิงส่วนมากมีอาการอ่อนเพลียจากร่างกายขาดน้ำเป็นเวลานาน บางตัวก็จะมีปัญหาเรื่องของระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากความแออัดในระหว่างการลักลอบขนส่ง ส่วนตัวที่อยู่ในวิกฤตมีทั้งหมด 4 ตัว โดยทางโรงพยาบาลสนามได้มีการกู้ชีพจนปลอดภัยแล้ว 2 ตัว ส่วนอีก 2 ตัว สัตวแพทย์ยังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ในตู้อบ


นอกจากการคัดแยกคัดกรองสุขภาพของลิงแต่ละกลุ่มแล้ว ได้มีการคัดแยกเพศ ช่วงอายุ ลักษณะทางสภาพร่างกายของลิงด้วย ลิงบางตัวพบว่ามีน้ำนมไหล จากการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เช็ค พบว่าตั้งท้องได้อยู่ในภาวะที่ใกล้จะคลอดแล้ว ทางสัตวแพทย์ก็ทำการแยกไว้เพื่อเฝ้าดูอาการ ส่วนกรณีของลิงตัวที่ตายทั้งหมด 18 ตัว พบว่า 4 ตัว ตายระหว่างที่จะมีการเคลื่อนย้ายเพื่อเข้ามาดูแลรักษา โดยตัวที่ตายเจ้าหน้าที่ได้มีการทำลงบันทึกประจำวันเพื่อลงบันทึกขออนุญาตทำลาย ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เนื่องจากในสถานการณ์ covid เรื่องของโรคติดต่อระหว่างสัตว์ป่าสู่คน หรือแม้กระทั่งจากคนสู่คนเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาปฏิบัติงานต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด


ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/SrShm9cXSrs

คุณอาจสนใจ

Related News