18 มงกุฏสาวที่เคยถูกจับดำเนินคดี พ้นโทษออกมาตระเวนก่อเหตุแถบจังหวัดระยอง โดยคราวนี้ทำทีเป็นไฮโซ ลูกหลานตระกูลดัง ทำธุรกิจมากมาย หลอกเอาเงินชาวบ้านไปได้นับแสน แม้กระทั่งพระยังไม่เว้น

โดย พระครูบวรสาธุกิจ หรือพระอาจารย์จิ้น เจ้าอาวาสวัดศรีวโนภาสสถิตพร จังหวัดระยอง ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ หลังจากที่ตัวท่านเอง และลูกศิษย์ เจอ 18 มงกุฏหลอกตุ๋น ได้เงินไปกว่า 3 แสนบาท

ด้าน นายปิติพัฒน์ ลูกศิษย์ของพระอาจารย์จิ้น เล่าว่าได้ไปรู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งกริยาท่าทางดูเป็นไฮโซ ระหว่างที่รอรับรถ ก็ได้พูดคุยกัน โดยหญิงสาวได้แนะนำตัวเองว่า เป็นลูกหลานของตระกูลดัง เคยเป็นอดีตผู้พิพากษา แล้วลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งอสังหาริมทรัพย์ เกษตร และไฟแนนซ์ สามีอยู่ต่างประเทศต้องการซื้อที่ดินร้อยไร่ถึงพันกว่าไร่ในภาคตะวันออก เพื่อสร้างแลนด์มาร์คใหม่รองรับการเจริญเติบโตในภาคตะวันออก จากนั้นก็มีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน

ต่อมากลางเดือนเมษายน หญิงรายนี้ได้ติดต่อมา และเร่งรัดในการหาที่ดิน ตนเองจึงรีบรวบรวมที่ดิน ทั้งบนฝั่ง และเกาะต่าง ๆ ตามที่หญิงสาวต้องการ ซึ่งรวมมูลค่าที่ดินทุกแปลงแล้ว กว่า 8 พันล้านบาท คิดเฉพาะค่านายหน้าอย่างเดียวก็เป็นเงินกว่า 100 ล้านบาทแล้ว และตนเองอยากให้ที่ดินขายได้ จึงนัดให้หญิงสาวมาพบกับพระอาจารย์จิ้น ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าท่านมีคาถาอาคมช่วยให้ที่ดินขายได้เร็ว เพื่องานจะได้สำเร็จ และจะนำเงินค่านายหน้าที่ได้ไปพัฒนาที่ดินของตนเองเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ซึ่งหญิงสาวก็ทำทีเห็นดีด้วย

หญิงสาวบอกต่ออีกว่า มีบริษัทไฟแนนซ์ไปตามยึดรถจากลูกค้า แล้วให้ตัวเธอเป็นตัวแทนขายแต่เพียงผู้เดียว พร้อมกับนำภาพรถกระบะ รถเก๋ง รถไถ รถแบคโฮ มาให้พระอาจารย์จิ้นและลูกศิษย์ดู โดยนายปิติพัฒน์ จองรถแบคโฮ และพระอาจารย์จิ้นได้ชักชวนญาติและลูกศิษย์ มาจองรถต่าง ๆ อีกรวมแล้ว 10 คัน แล้วก็วางมัดจำกันไปทุกคัน รวมเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท

แต่เรื่องมาแตก ก็เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา หญิงสาวรายนี้ได้นัดจ่ายแคชเชียร์เช็คให้กับเจ้าของที่ดินที่ตกจะซื้อ โดยนัดมาจ่ายเงินกันที่วัดศรีวโนภาสสถิตพร แต่รอแล้วรอเล่า ก็ไม่มีแม้เงาของสาวคนนั้น แถมยังติดต่อไม่ได้ด้วย ทุกคนจึงรู้ว่าถูกหลอก จึงพากันไปแจ้งความตาม สภ.ต่าง ๆ เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามตัว

นายปิติพัฒน์บอกว่า รู้สึกแปลกใจตั้งแต่ช่วงการซื้อขายที่ดิน ซึ่งมีราคาหลักร้อยล้าน แต่ทำเหมือนง่าย ดูที่ไม่กี่นาทีก็ตัดสินซื้อ และตลอดเวลาที่มีการเดินทางพาไปดูที่ดินแปลงต่าง ๆ ตนเองก็เป็นคนออกใช้จ่ายทั้งหมด แถมยังเลี้ยงดูปูเสื่อ กินอาหารดี ๆ หมดเงินไปอีกนับแสนบาทด้วย หลังรู้ว่าถูกหลอกก็ไปเปิดดูประวัติ จึงทราบว่าเป็นแก๊งค์ต้มตุ๋น ที่เคยถูกจับเมื่อปี 2557 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างตัวเป็นผู้พิพากษา สามารถล้มคดี่ได้ มีชาวบ้านหลงเชื่อ เสียเงินเสียทองจำนวนมากกันไปหลายราย จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัว เพราะว่าเป็นภัยสังคมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนในช่วงโควิด-19

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/AgWCA-BuZCg