นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทยว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกคนในประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด 19 ตามความสมัครใจ ซึ่งประชากรทั้งคนไทยและต่างชาติในประเทศไทยมีประมาณ 70 ล้านคน การรับวัคซีนครอบคลุมให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ คือ ร้อยละ 70 ของประชากร เท่ากับประมาณ 50 ล้านคน โดยใช้วัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2564

ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดในขณะนี้ ยังอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นหลัก ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติเห็นชอบการปรับแผนการกระจายวัคซีนโควิด 19 ด้วยกลยุทธ์ "ฉีดปูพรม" (Mass Vaccination) ในพื้นที่ระบาด

นายอนุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่มีการระบาด และไม่ได้กำหนดวันดีเดย์ ว่าต้องเป็นวันที่ 7 มิถุนายน ดังนั้น หากเราพร้อมแล้วก็สามารถฉีดได้เลย เพราะ ขณะนี้ก็มีการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว

ซึ่งล่าสุด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอว่า หาก สธ.จะเปิดให้มีการวอล์ค อิน (walk in) เพื่อฉีดวัคซีน ก็พร้อมสนับสนุนพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีระบบระบายอากาศที่ดี มีที่จอดรถ และการคมนาคมสะดวก ซึ่ง สธ. ก็รับพิจารณาในส่วนนี้ด้วย

ขณะที่นายแพทย์ พงศธร พอกเพิ่มดี นพ.ทรงคุณวุฒิฯ/ที่ปรึกษาระดับกระทรวง ระบุข้อมูลระบบการจองฉีดวัคซีนกับหมอพร้อม ทั้งแอปพลิเคชั่นและไลน์แอด กล่าวว่า ปัญหาการจองเข้ารับวัคซีนโดยการเลือกโรงพยาบาล เพื่อรับการฉีดวัคซีนยังเป็นปัญหาที่ประชาชนบางส่วนยังไม่สามารถเลือกสถานพยาบาลได้ ขอให้เลือถานพยาบาลอื่นๆข้างเคียงก่อน

กรณีพบชื่อ นามสกุลไม่ตรงข้อมูล ให้ประสานแจ้งโรงพยาบาลที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน ส่วนประเด็น บุคลากรของคลินิกเอกชน ให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขในท้องที่ได้

พร้อมกันนี้ วันนี้ (12 พ.ค.) จะขยายบริการสายด่วนหมอพร้อมเป็น 100 คู่สายและเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้คำแนะนำข้อมูลแก่ผู้ที่มีปัญหาในการลงทะเบียนขอรับฉีดวัคซีน

ส่วนกลุ่มผู้ป่วยโรคอ้วนมักไม่มีประวัติการรักษา ดังนั้น ขอให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์เพื่อขอเพิ่มรายชื่อในการเข้ารับวัคซีนได้เลย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-u6ULBh3EXg