บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มที่ต้องรับมือกับผู้ป่วยโควิด-19 มาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ทีมแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลได้สะท้อนมุมมองการทำงานตลอดช่วงที่ผ่านมา ซึ่งต้องรับมือกับการตรวจคัดกรองเชื้อรายวันจำนวนมาก และระหว่างการรักษาการระบาดครั้งนี้ พบผู้ติดเชื้อมีอาการวิกฤตจากปอดอักเสบได้ตลอดเวลา โดยผู้ป่วยวิกฤต 1 คน ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนกว่า 10 คน จึงทำงานหนักท่ามกลางความเสี่ยง

หากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อาการไม่รุนแรง แพทย์ก็จะให้ผู้ป่วยช่วยวัดอุณหภูมิและออกซิเจนเพื่อดูอาการโดยทั่วไป เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ แต่เมื่อใดที่ผู้ป่วยเกิดอาการวิกฤต เมื่อนั้นทีมบุคลากรทางการแพทย์ ต้องพร้อมเต็มที่ เป็นช่วงเวลาที่ทั้งเสี่ยงและหนัก เพราะผู้ป่วยวิกฤต 1 คน ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์หลายสิบคน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมากและมีโรคประจำตัวอาการกำเริบได้ตลอดเวลา และจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในหอผู้ป่วยวิกฤต ส่วนใหญ่ มีอาการปอดอักเสบ เหนื่อยหอบ ต้องการเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทีมวิสัญญีแพทย์ก็ต้องเข้าช่วยเหลือทันที

ดังนั้นนี่จึงเป็นเสียงสะท้อนเจากปราการด่านหน้าที่ต้องทุ่มสรรพกำลัง จนผู้ป่วยโรคอื่นต้องชะลอการรักษาไปก่อน เนื่องจากแต่ละวันจะมีกลุ่มสุ่มเสี่ยงมาต่อคิวตรวจคัดกรองเชื้อยาวเหยียดกว่า 300 คน เพื่อผลจะได้ออกโดยเร็ว ทุกภาคส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ได้ทุ่มเทเสียสละเป็นรอบที่ 3 แล้ว