มสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงมีแนวโน้มพุ่งขึ้นต่อเนื่อง วันนี้หลายหน่วยงาน ทั้งสาธารณสุขและกทม. ปรับแผนรับมือการแพร่ระบาด จนถึงนายกรัฐมนตรี เองก็ระบุว่าการระบาดรอบที่ 3 ถือว่าเลวร้ายที่สุด ซึ่งรัฐบาลได้เตรียม แผนรองรับทั้งยาและวัคซีน ซึ่งการระบาดรอบที่ 3 ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากคลัสเตอร์ทองหล่อ ก็ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว แต่นอกจากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังไม่ลดลงแล้ว อัตราการเสียชีวิตและผู้มีอาการหนักกลับยังพุ่งสูงขึ้น

แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงาน วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,044 คน ติดเชื้อในประเทศ 2,040 คน จากต่างประเทศ 4 คน เสียชีวิตเพิ่ม 27 คน ทำให้ยอดสะสม 78,855 คน รักษาหาย 2,377 คน ยังรักษาตัว 29,320 คน ในจำนวนนี้มีกลุ่มอาการหนัก 1,170 คน ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 367 คน

สำหรับผู้เสียชีวิตอายุตั้งแต่ 30-90 ปี มากที่สุดอยู่ในกรุงเทพฯ 18 คน นนทบุรี-สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 คน ปทุมธานี-ชัยภูมิ-ฉะเชิงเทรา-ระนองและระยอง จังหวัดละ 1 คน ส่วนใหญ่เป็นโรคประจำตัว ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ สูงสุดเป็นกทม. 869 คน

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. สรุปว่าในกรุงเทพฯและปริมณฑล กราฟยังพุ่งทะแยงขึ้น มียอดผู้ติดเชื้อสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึงวันนี้ รวมกันมากถึง 25,995 คน จุดที่น่าห่วง คือ พบผู้ติดเชื้อเกิน 500 คนต่อวันต่อเนื่อง มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ซึ่งในที่ประชุม ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุข หรือ EOC เห็นตรงกันว่า ยังมีความจำเป็นสำหรับเพิ่มเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม ที่เป็นกลุ่มสีเหลืองและสีแดง โดยในกลุ่มสีเหลืองนั้น จะใช้พื้นที่อิมแพ็ค เมืองทอง แจ้งวัฒนะ ที่สามารถจุได้ประมาณ 1 พันเตียง และคาดว่าจะต้องจัดหาเพิ่ม รองรับไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้

ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่าน PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง ผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ว่า สั่งปรับแผนกระจายวัคซีนโควิด-19 โดยเร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนมากที่สุด พร้อมสั่งสำรองวัคซีน ให้ได้มากกว่า 150 ล้านโดส ในปีหน้า ยืนยันขณะนี้ไทยมียาฟาวิพิราเวียร์ ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเพียงพอ แม้จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยมีสต็อกยาไว้ ที่ 1 ล้าน 5 แสนเม็ด ปัจจุบัน กระจายยาไปยังทั่วประเทศ และในเดือนนี้จะได้รับยาอีก 3 ล้านเม็ด

ล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติคงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยขยายเวลาปิดสถานที่เสี่ยง จากเดิม 9 พฤษภาคม เป็น 17 พฤษภาคมนี้ พร้อมขยายการให้บริการจุดตรวจเชิงรุกในกลุ่มพนักงานส่งอาหาร แรงงานนอกระบบ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่อาคารกีฬาเวสน์1 ตั้งแต่วันที่ 5 - 31 พฤษภาคม