เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในทุกเส้นทาง คือการลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศ จากการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงเทศกาลวันหยุด และช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้มากกว่า 10 ราย พบว่าเส้นทางสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังมีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปส.3 สกัดรถต้องสงสัยบริเวณริมถนนทางหลวงชนบท ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายมูเซอ จะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนบ้านดอยป่าคา อ.ฝาง โดยใช้รถยนต์กระบะ 2 คัน กระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย

รวมทั้งมีรถจักรยานยนต์ ลักษณะเป็นการขับขี่ตามกันมา จากการตรวจค้นพบยาเสพติดประมาณ 500,000 เม็ด ซุกซ่อนภายในรถยนต์ จับผู้ต้องหาได้ 4 ราย คือ นายสมคิด /นายสงกรานต์ /นายดนัยและ นายยูแซะ ชาวเชียงรายและเชียงใหม่ ในช่วงเทศกาลวันหยุด ยังมีการลักลอบขนยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง จากการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม

ยาเสพติดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าได้ร่วมบูรณการกับทหาร ฝ่ายปกครอง และสาธารณะสุข ร่วมทั้งอาสาสมัคร เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยาเสพติดช่วงเทศกาลวันหยุด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิด 19 และกลุ่มเครือข่ายอาศัยช่วงที่ตำรวจ มีกำลังลดลงจากการติดเชื้อและถูกกักตัว

ขณะที่บริเวณด่านตรวจยานพาหนะสี่คิ้ว ตำรวจปส.2สกัดจับรถตู้ต้องสงสัยบริเวณ ริมถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา พบรถตู้ และรถเก๋ง ขับหลบเลี่ยงด่านตรวจ จึงสะกดรอยตามถึงถนนต่างระดับอ.สี่คิ้ว เมื่อตรวจค้นรถตู้ พบบรรจุยาเสพติดมาเต็มคันรถร่วม 8 ล้านเม็ด จับผู้ต้องหาเป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน จากการสอบสวนพบว่าได้ลักลอบขนยาเสพติดมากับรถตู้ จากฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม เพื่อจะไปส่งเครือข่ายที่ภาคกลาง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า การจับกุมยาเสพติดต้องใช้การสืบสวนและการข่าวเพื่อสืบให้ถึงเครือข่าย ร่วมกับการตั้งด่าน โดยกลุ่มผู้ลำเลียงมักใช้เส้นทางสายรอง และหลบเลี่ยงด่านตรวจ แต่มาตรการการตั้งด่านกลับมาก็อาจจะเป็นการป้องปรามได้ เพราะบางรายเมื่อจวนตัวก็ขับแหกด่านหรือขับหนีจนเกิดอุบัติเหตุและยึดของกลางได้จำนวนมาก