ครอบครัวติดใจการรักษาโรงพยาบาล ตำรวจเตะบอลขาหัก เชื่อรอผ่าตัดนาน สุดท้ายเสียชีวิต

สังคม

ครอบครัวติดใจการรักษาโรงพยาบาล ตำรวจเตะบอลขาหัก เชื่อรอผ่าตัดนาน สุดท้ายเสียชีวิต

โดย nicharee_m

1 เม.ย. 2564

165 views

วันที่ 1 เม.ย.2564 รายการโหนกระแสพูดคุยกับภรรยาที่ยังติดใจ กรณีสามีตำรวจเตะบอลขาหัก นอนรอ 7 วันได้ผ่าตัด สุดท้ายเสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลนางรองยันไม่ได้ตายระหว่างผ่าตัด แต่สันนิษฐานไขมันกระดูกหลุดเข้าไปในเส้นเลือด


นางสุวรรณี หลอดทอง อายุ 43 ปี ภรรยา ด.ต.ศิราวุธ หลอดทอง อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่ สภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า หลังจากที่สามีขาหักขณะเตะฟุตบอล เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วถูกส่งไปรักษาที่ รพ.นางรอง ทาง รพ.ให้นอนรอผ่าตัด 7 วัน กระทั่งวันที่ 24 มี.ค. จึงได้เข้าผ่าตัด แต่สามีเสียชีวิต โดยทาง รพ.แจ้งเบื้องต้นว่า เกิดจากลิ่มเลือดแข็งตัว ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงปอดและหัวใจ ซึ่งการเสียชีวิตของ ด.ต.ศิราวุธ สร้างความคาใจให้กับภรรยาและญาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากเข้า รพ.เพียงแค่ขาหัก แต่ต้องถึงกับเสียชีวิต ทั้งที่สามีเป็นคนแข็งแรง


นางสุวรรณี กล่าวว่า ถึงเวลานี้ยิ่งคิดยิ่งข้องใจหลายข้อ กรณีหมอมาชี้แจงว่า ไขกระดูกหลุดเข้าไปในเส้นเลือด ทำให้ปอดและหัวใจไม่ทำงาน แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะเข้าไปจุดสำคัญเหมือนเคสนี้ รวมทั้งติดใจว่าทำไมหมอไม่วิเคราะห์ ไม่ตรวจร่างกายคนไข้ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัด


ทั้งนี้ จากการพิสูจน์ศพพบว่า ลิ่มเลือดอุดกั้นที่ปอดเฉียบพลัน ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชียวชาญด้านนิติเวช มศว เผยว่า อาจเกิดจากเส้นเลือดฉีกขาดแม้เพียงเล็กน้อย แต่สามารถก่อตัวเป็นลิ่มเลือดแล้วหลุดไปตามกระแสเลือดจนไปสู่ปอด หรืออีกกรณีหนึ่งอาจเกิดความผิดปกติจนทำให้ลิ่มเลือดแข็งตัว และกรณีที่ 3 เมื่อเกิดภาวะบาดเจ็บ ประกอบกับร่างกายไม่ได้มีการขยับ ทำให้เกิดลิ่มเลือด แล้วหลุดจากผนังผ่านกระแสเลือดไปยังปอด หากมีการพบความผิดปกติดังกล่าวต้องทำการรักษาทันที


ขณะที่ นพ.นพดล พิษณุวงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนางรอง เผยว่า ยังไม่ได้รับการชันสูจน์การเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลกำลังเร่งตรวจสอบ แต่อาการดังกล่าวที่มีการบาดเจ็บกระดูกหัก แล้วเกิดลิ่มเลือด หรือ ไขกระดูกหลุดเข้าไปในเส้นเลือด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ ทั้งยนี้สามารถเกิดขึ้นได้ใน 30 ใน 100 คน ต่อ 300,000 ประชากร


สำหรับกรณีของดาบตำรวจ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนางรอง เผยว่า ได้มีการแจ้งกับญาติของผู้ป่วยถึงการรักษา และได้ทบทวนความบกพร่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าได้มีการชี้แจงและแนะนำกับคนไข้ให้มีการกายภาพ ทั้งนี้ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนางรอง ปฏิเสธว่าเป็นภาพเอ็กซเรย์ของผู้เสียชีวิต


อย่างไรก็ตาม น้องชายของผู้เสียชีวิตยืนยันว่า พี่ชายเป็นผู้ถ่ายภาพเอ็กซเรย์ให้กับทางครอบครัวเอง และเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลนางรองให้ข้อมูลการรักษาอย่างถี่ถ้วน

คุณอาจสนใจ

Related News