เท้าแชร์วัยกระเตาะ เปิดเฟซฯหลอกให้ออมเงินแลกดอกเบี้ย สุดท้ายปิดหนีเชิดเงิน 300 ล้าน

สังคม

เท้าแชร์วัยกระเตาะ เปิดเฟซฯหลอกให้ออมเงินแลกดอกเบี้ย สุดท้ายปิดหนีเชิดเงิน 300 ล้าน

โดย pichaya_s

4 มี.ค. 2564

31.4K views

วานนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีผู้เสียหายหลายรายประมาณ 30 คน ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.สส.ภ.6 เพื่อแจ้งความและเร่งรัดคดีกรณีถูกหลอกลวงชักชวนร่วมลงทุนออมเงินผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยมีผู้เสียหายจากทั่ว จ.พิษณุโลก ไม่ต่ำกว่า 300 ราย และผู้เสียหายจากภูมิภาคอื่นๆ อีกจำนวนมาก สูญเงินรวมกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยแค่จังหวัดพิษณุโลกจังหวัดเดียว ก็เสียหายกว่า 50 ล้านบาทแล้ว


ซึ่งสืบทราบว่าท้าวแชร์เป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของ จ.พิษณุโลก ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Milk Budsakorn และทราบว่ากำลังศึกษาอยู่คณะนิติศาสตร์ อายุ 22 ปี ชั้นปีที่ 4 เปิดเฟซบุ๊กบ้านออมเงินบ้านแชร์  “Milk Milk” หลังผู้เสียหายร่วมลงทุนกลับไม่สามารถคืนผลกำไรให้ได้ และแจ้งว่าบ้านออมเงินบ้านแชร์ล่มในที่สุด


โดยผู้เสียหายบางรายเป็นเพียงนักศึกษาแต่ลงทุนไปมากถึง 1 ล้านบาท เรทลงทุนมีหลายแบบ อาทิ ราย 10 วัน ราย 20 วัน ราย 30 วัน ออม 1,000 รับ 1,150 ออม 10,000 รับ 13,000 ออม 70,000 รับ 91,000 เป็นต้น กลับไม่ได้ผลกำไรตามข้อตกลงกลับคืนมา และสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา บ้านออมเงินบ้านแชร์ล่มและมียอดเงินที่ต้องคืนให้กับสมาชิกเป็นเงินจำนวน 7 ล้านบาท ท้าวแชร์ได้แจ้งสมาชิกว่าบ้านออมเงินบ้านแชร์ล่มไม่สามารถคืนเงินให้กับสมาชิกได้ สมาชิกทั้งหมดจึงพากันรวมตัวไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวและดำเนินคดีกับท้ายแชร์รายนี้


ด้านผู้เสียหาย ที่สูญเงินประมาณ 200,000 บาท คนหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า มีการเชิญชวนและบอกต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ลงทุนที่นี่แล้วได้ผลตอบแทนจริง จึงเข้าไปลงทุนและได้รับผลตอบแทนในตอนแรกจึงลงทุนไปเรื่อยๆ กระทั่ง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 2 ทุ่ม ได้เปิดให้ลูกบ้านโอนเงินไปให้ ต่อมาในเวลา 3 ทุ่ม ได้ประกาศปิดบ้าน ว่าจะไม่เดินหน้าต่อแล้ว ซึ่งในวันต่อมาได้ประกาศว่าจะคืนเงินให้ แต่อีกหนึ่งวันถัดไปก็ออกมาประกาศอีกว่า จะไม่มีการคืนเงินเหมือนที่บอกมาก่อนหน้านี้แล้ว ทุกคนจึงรู้ว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก 


ส่วนผู้เสียหายอีกราย สูญเงินไปประมาณ 500,000 บาท บอกว่า ตนเองเริ่มต้นลงทุนจาก 50,000 บาท ก่อน ก็ได้เงินผลตอบแทนตามที่ประกาศเชิญชวน จึงทำต่อมาเรื่อยๆ ซึ่งนอกเหนือจากตนเองแล้ว เพื่อนๆนักศึกษาที่รู้จักกันอีกหลายคนก็โดนหลอกให้ร่วมลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน


ด้าน นายฤทธิพร ก้อนคำ อายุ 33 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองได้รู้จักบ้านออมเงินบ้านแชร์ “มิลล์ มิลล์” ผ่านทางกลุ่มเพื่อนๆ และช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเปิดมาแล้วประมาณ 2 ปี มีความน่าเชื่อถือเชิญชวนให้มีการลงทุนออมเงินแล้วจะได้ผลตอบแทนดี ตนเองจึงนำเงินร่วมลงทุนไปด้วยจำนวน 50,000 บาท โดยในเวลา 15 วัน จะได้ผลกำไรกลับคืนมาประมาณ 60,000 บาท 


นอกจากนี้ยังทราบอีกว่ายังมีผู้เสียหายจากภูมิภาคอื่นๆ ก็โดนท้าวแชร์รายเดียวกันก่อเหตุในลักษณะนี้ กำลังรวมตัวทยอยเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ โดยมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยผู้เสียหายทั้งหมดต้องการที่จะให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านออมเงิน Milk Milk ในข้อหาร่วมระดมทุนอันเป็นการฉ้อโกง


ด้าน พลตำรวจตรี ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 บอกกับผู้มาร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นใจผู้เสียหายทุกคน และมีความตั้งใจที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกบัญชีธนาคารของผู้ก่อเหตุ เพื่อนำมาใช้ประกอบสำนวนคดีแล้ว ขณะเดียวกัน ได้ทยอยเรียกผู้เสียหายให้เข้ามาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรวบรวมสำนวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้แนะนำให้ผู้เสียหายที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนนับพันคน ไม่จำเป็นต้นเดินทางมาที่จังหวัดพิษณุโลกที่เดียว โดยขอให้ แจ้งความได้ที่ท้องที่ที่ผู้เสียหายพำนักและดำเนินธุรกรรมทางการเงิน ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เช่นเดียวกัน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/P2j_tJkgm8k

คุณอาจสนใจ

Related News