กลับมาอีกครั้ง! ครอบครัวหัวร้อนที่เคยท้าต่อตำรวจที่จังหวัดระยอง ครั้งนี้ทะเลาะกับตำรวจ สน.ดินแดง หลังหายเงียบไปเกือย 2 ปี ในกรณีไม่มีใบขับขี่ เมื่อตำรวจขอตรวจบัตรประชาชนแรงงานที่อยู่ท้ายรถ กลับร้องเพลงชาติให้ฟังแทน สุดท้ายนอนคุกและโดนแจ้ง 3 ข้อหา

ถ้ายังจำกันได้ กลุ่มคนที่มีปากเสียงกับตำรวจ เคยเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายตำรวจ สภ.มาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 เพราะจอดในที่ห้ามจอด และยังต่อยตำรวจที่มาเขียนใบสั่งด้วย สุดท้ายต้องไปขอขมาตำรวจ และตัวลูกชายขณะนั้นวัย 18 ปี ได้บอกว่าจะบวชให้เมื่ออายุ 20 ปีด้วย พร้อมสัญญาว่าจะใจเย็นลง ซึ่งครั้งนั้นครอบครัวนี้ถูกชาวมาบตาพุดไล่ออกนอกพื้นที่ 

โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 ก.พ. 64) ที่สี่แยกประชาสงเคราะห์ หน้าแฟลตดินแดง ครองบครัวหัวร้อนนี้ได้เกิดมีปากเสียงกับตำรวจขึ้น โดยมีใจความว่า ตำรวจเรียกให้รถที่บรรทุกแรงงานหยุดตรวจ เพื่อขอดูบัตรประชาชน แต่กลับร้องเพลงชาติไทยให้ฟัง โดยอ้างว่าเป็นการยืนยันว่าเป็นคนไทย ตำรวจจึงกลับถามว่าร้องทำไมใครให้ร้อง เมื่อขอดูใบขับขี่ก็ไม่มี ตำรวจจึงเชิญตัวไปโรงพัก แต่ทั้งหมดปฏิเสธและยังโวยวายให้คนที่อยู่แถวนั้นมาเป็นพยานว่าโดนตำรวจรังแก 

เหตุการณ์นี้ได้ยืดเยื้อไปจนค่ำ ซึ่งทั้งหมดยังยืนยันว่าไม่ผิด ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และจะไม่ยอมไป สน. จนสุดท้ายเจอตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา และคุมตัว ชายที่ขับรถไปดำเนินคดีและคุมตัวไว้ในห้องขัง

ล่าสุดทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่ สน.ดินแดง พบว่ามีครอบครัวมาเยี่ยมตั้งแต่เช้า แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ หลังถูกตำรวจดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ นำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ฯ และดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง 2 ข้อหาแรกเปรียบเทียบปรับแล้ว แต่ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานเตรียมนำตัวส่งฟ้องศาล ที่ศาลแขวงพระนครแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว