นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้โพสต์ไขข้อข้องใจ ถึงกรณีแกนนำ กปปส. ถูกศาลตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ต่างจากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกตัดสิทธิ์ 10 ปี

โดยจากข้อมูลสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหาที่กลุ่ม กปปส.โดนนั้น เป็นทั้งความผิดตามกฎหมายอาญา และความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ส.ส./ส.ว. ปี 2550 (พรป.ส.ส.) ที่ไม่ใช้ฉบับปัจจุบันปี 2561 เนื่องจากเป็นความผิดในปี 2557

โดยมาตรา 76 ระบุว่า ใครขัดขวาง หน่วงเหนี่ยวคนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องระวางโทษตามมาตรา 152 คือ จำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี

ดังนั้นคนที่ถูกฟ้องตาม พรป.ส.ส.เท่านั้นที่จะถูกตัดสิทธิเลือกตั้งซึ่งหมายถึงสิทธิทางการเมืองอื่นๆ ด้วย เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งถือว่าเป็นโทษในขณะนั้น

แต่ปัจจุบันความผิดแบบนี้ คือ มาตรา 100 ของ พรป.ส.ส.ฉบับปัจจุบัน ซึ่งมีการปรับโทษใหม่ตามมาตรา 164 โดยเพิ่มเป็นเพิกถอนสิทธิ 10 ปี ดังเช่นโทษที่นายธนาธรได้รับ

คดีการขัดขวางคนไปใช้สิทธิ์ กกต.ในยุคนั้นยังได้ขอให้ กกต.จังหวัด ฟ้องในทุกจังหวัดที่มีการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งศาลน่าจะได้ตัดสินไปหมดก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้นายสมชัย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “คดี กปปส.คงเป็นบทเรียนว่า ท่านชุมนุมได้เป็นเสรีภาพ แต่ท่านทำผิดกฎหมายไม่ได้ การได้รับโทษทัณฑ์ดังกล่าว ศาลได้ตัดสินตามข้อเท็จจริงที่อัยการนำเสนอ แม้จะล่าช้ากว่า 7 ปีก็ตาม แม้ยังอุทธรณ์ได้ แต่สำหรับผู้มีตำแหน่งทางการเมือง  เมื่อถูกตัดสิทธิทางการเมืองแล้วถือว่าต้องถือว่าจบครับ”