โคราช-มีกรณีประชาชนได้รับหนังสือขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นอีกหลายราย ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงการทำงานของหน่วยงานราชการ

โดยนายเสรี ไชยกิตติ นายกเทศมนตรีตำบลจอหอ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปลายปี 2562 ทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือแจ้งมาว่า ในพื้นที่ตำบลจอหอ มีผู้สูงอายุที่ขาดคุณสมบัติได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 13 ราย เนื่องจากได้รับเงินบำนาญพิเศษตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว ซึ่งต่อมาทางเทศบาลตำบลจอหอได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้สูงอายุทั้ง 13 รายมาสอบถามก็ได้รับการยืนยันว่า ทุกคนได้รับเงินบำนาญพิเศษจริง ทางเทศบาลฯ จึงได้ส่งเรื่องไปให้กรมบัญชีกลางทราบ

จนกระทั่งปลายปี 2563 ทางกรมบัญชีกลางก็มีหนังสือให้ทางเทศบาลตำบลจอหอเรียกเก็บเงินเบี้ยยังชีพคืน ซึ่งขณะนี้มีผู้สูงอายุจำนวน 9 รายที่ยินยอมคืนเบี้ยยังชีพผู้สูอายุ โดยผู้สูงอายุบางรายมียอดเงินเรียกเก็บไม่กี่หมื่นบาทก็ขอคืนทั้งหมดในครั้งเดียว ขณะที่บางรายที่มียอดเงินหลายหมื่นบาทจนถึง 1 แสนกว่าบาทก็พร้อมที่จะผ่อนชำระตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนผู้สูงอายุอีก 4 รายไม่สามารถเจรจากันได้ และยังไม่ยินยอมคืนเงิน ทางเทศบาลฯ จึงมีความจำเป็นต้องส่งเรื่องฟ้องต่อศาลแขวงนครราชสีมาเพื่อให้ศาลพิจารณาดำเนินการทางแพ่งต่อไป

ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใดๆ ซึ่งในความเป็นจริงทางเทศบาลฯ ก็ไม่ได้อยากฟ้องร้อง แต่หากไม่ฟ้องก็จะโดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เช่นเดียวกัน

ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจข้อเท็จจริงว่าจะดูแลกันอย่างไรต่อไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายปีที่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด เพราะปัจจุบันมีการเชื่อมโยงต่างๆจากกรมบัญชีกลางแล้ว และปัญหาแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป วันนี้ก็เป็นเรื่องการพบปะหารือพูดคุยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เมื่อถามต่อว่า ได้สั่งการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ให้กระทรวงการคลังดูแล เมื่อมีปัญหาก็ต้องตรวจสอบ ระเบียบว่าอย่างไรก็ไปเจรจากัน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/y_PgwwcThxU