คุณต้องการล้างการแจ้งเตือนทั้งหมด?
13 ชม. ที่ผ่านมา
79 view
14 ชม. ที่ผ่านมา
33 view
15 ชม. ที่ผ่านมา
389 view
15 ชม. ที่ผ่านมา
493 view
15 ชม. ที่ผ่านมา
965 view
15 ชม. ที่ผ่านมา
23 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
211 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
776 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
250 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
52.1K view
16 ชม. ที่ผ่านมา
1.3K view
03 ธ.ค. 2563
5K view
ออกอากาศ: ช่อง 33 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 05.30 - 08.00 น.
สมุทรสาคร-กรณีมีคลิปของบริษัททวงหนี้โหด กระทืบลูกน้องบริษัทเดียวกันอย่างทารุณ เหตุทวงเงินไม่ได้จนเกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ
ต่อมา ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้สอบปากคำนายต้น (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกาย เล่าว่าผู้ที่ลงมือทำร้ายร่างกายคือหัวหน้าเก็บเงินกู้นอกระบบซึ่งเป็นเพื่อนกัน และก็ไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากเป็นเพื่อนกันและเขาคงผิดจริง โดยหลังจากถูกทำร้ายก็ไม่ได้ไปหาหมอ ซื้อยามากินและได้นอนพักรักษาตัวระยะหนึ่ง 2-3 วันก็หาย หลังจากนั้นก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม จนได้รับเงินเดือน ก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัด
ส่วนประเด็นที่ถูกระบุว่า นายต้น ถูกทำร้ายเพราะยักยอกเงินนั้น นายต้น อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้ยักยอกเงิน แต่เป็นการโยกสลับบัญชีลูกค้าที่รับผิดชอบเนื่องจากบางรายเก็บเงินไม่ได้ จึงนำเงินของลูกค้ารายที่เก็บได้โอนสลับบัญชี เพื่อให้ผ่านตรวจสอบรอบบัญชี แต่มาถูกจับได้เพราะพนักงานทวงหนี้อีกคนไปถามกับลูกค้าจ่ายหนี้แล้วแต่ถูกนำเงินโยกบัญชี ไปยังบัญชีลูกหนี้รายอื่น
เบื้องต้นผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ผู้เสียหายยังมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับปากที่จะดูแลตามที่ผู้เสียหายร้องขอ สำหรับประเด็นเรื่องของการเก็บหนี้เงินกู้นอกระบบนั้น เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนผู้เสียหายถึงความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกันในลักษณะใด หากพบว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขบวนการเก็บหนี้เงินกู้นอกระบบ ก็คงต้องดำเนินคดีในส่วนนั้นด้วย แต่จะมีโทษหนักเบาอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลหลักฐาน
ทางด้านนายต้น ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ชายที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวเป็นตนเองจริงเหตุ เกิดเหตุเมื่อเดือนม.ค. 2563 เพราะตนไม่สามารถทวงเงินลูกค้าตามที่บริษัทมอบหมายได้ จึงแอบตกแต่งบัญชีด้วยการนำเงินบางส่วนของลูกค้าอีกรายมาใส่ในบัญชีของลูกค้าที่ตนทวงเงินไม่ได้ แต่ทางบริษัทจับได้จึงถูกลงโทษเกิดเป็นภาพเหตุการณ์ตามคลิป
ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนต.ค. 2562 ตนได้สมัครงานกับบริษัทแห่งนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ยอมรับว่ารู้ตั้งเเต่เเรกที่เข้าทำงานแล้วว่าบริษัทแห่งนี้ปล่อยเงินกู้ด้วยการแจกนามบัตรตามสถานที่ต่างๆ โดยตนจะต้องทำหน้าที่ตามทวงดอกเบี้ยจากลูกค้า ที่ตัดสินใจทำงานนี้เพราะเงินเดือนรวมถึงค่าคอมมิชชั่นที่สูงถึงเฉลี่ยเดือนละ 3-4 หมื่นบาท เป็นสิ่งจูงใจ
ยอมรับว่าตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน ที่ทำงานเห็นคลิปพนักงานที่ถูกลงโทษอย่างรุนแรงด้วยการทำร้ายร่างกายเพราะขัดคำสั่งหรือยักยอกเงินบริษัท 5-6 คลิป แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ และไม่เคยคิดว่าตนเองจะถูกทำโทษในลักษณะดังกล่าวด้วย
ส่วนตัวไม่โกรธเพื่อนพนักงานที่นั่งดูเหตุการณ์ เพราะหากเป็นตนเองก็คงไม่กล้าเข้าไปช่วยเช่นเดียวกัน ภายหลังเกิดเหตุตนนอนซมอาการสาหัสเพราะร่างกายบอบช้ำถึง 3 วัน โดยไม่กล้าไปแจ้งความและไม่กล้าบอกใคร จากนั้นจึงทนทำงานให้ครบเดือน ก่อนจะลาออกและหนีไปอยู่บ้านภรรยาที่ภาคเหนือทันที หากย้อนเวลากลับไปได้ต่อให้มีเงินเดือน 2-3 แสนบาทก็คงไม่ทำงานนี้อีก
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mBqf4L0lDSo