คุณต้องการล้างการแจ้งเตือนทั้งหมด?
14 ชม. ที่ผ่านมา
80 view
14 ชม. ที่ผ่านมา
33 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
393 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
495 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
975 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
23 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
211 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
778 view
16 ชม. ที่ผ่านมา
250 view
17 ชม. ที่ผ่านมา
52.5K view
17 ชม. ที่ผ่านมา
1.3K view
01 ธ.ค. 2563
1.2K view
ออกอากาศ: ช่อง 33 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 05.30 - 08.00 น.
วันที่ 30 พ.ย. แกนนำกลุ่มราษฎร นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ , นายอานนท์ นำภา, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ และ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม
หลังมีการออกหมายเรียกกลุ่มแกนนำ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีปราศรัยระหว่างการชุมนุม ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 - 20 กันยายนที่ผ่านมา
ทนายอานนท์ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เป็นกังวล ที่ถูกใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดี พร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่ตัวเองมี ว่าไม่ได้กระทำผิด และทั้งนี้ยังยืนยันว่า แกนนำจะยังคงยึดมั่นในแนวทางชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยจากนี้ไปจะมีแนวทางการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นมากขึ้น
"ตนไม่ให้ค่าอะไรกับกฎหมายนี้นัก เพราะพยานหลักฐานประจักษ์ชัดอยู่แล้วว่าพูดอะไรและมีจุดมุ่งหมายอะไร และพร้อมจะสู้ในชั้นศาลต่อไป แม้จะไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมขนาดนั้น แต่เชื่อว่าศาลเองก็น่าจะพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา และผลจะออกมาสู่สาธารณชนได้รับทราบกัน เพราะตำรวจเคยขอหมายจับแต่ศาลยังไม่อนุมัติให้
มันถึงวันที่ต้องมาพูดอย่างตรงไปตรงมาเรื่องสถาบัน หากไม่รับฟังแล้วยังจะใช้กฎหมายปิดปากเราก็ยังจะสู้กันต่อไป โดยในปีหน้าเนื้อหาการชุมนุมจะหนักขึ้นแน่ ไปหาตู้คอนเทนเนอร์มาเพิ่มได้เลย ขอให้ตระหนักถึงสิ่งที่จะตามมา ตอนนี้เราได้เห็นความโหดร้ายของกฎหมายข้อนี้อีกครั้ง"
ขณะที่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก กล่าวว่า การที่ตนเองกับพวกถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 ย้อนหลัง มองว่าน่าจะเป็นคำสั่งของใคร ซึ่งกลุ่มของตนเองก็จะต้องมีการหาข้อเท็จจริง แต่อย่างไรเชื่อว่าแม้จะมีการใช้มาตรา 112 เพื่อดำเนินคดี ก็ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมทางการเมืองได้ และมองว่าเป็นอีกหนึ่งกฎหมายที่จะต้องถูกยกเลิก ขนาดพระพุทธเจ้าไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายนี้ก็ยังอยู่ให้คนได้เคารพมาได้จนทุกวันนี้
ด้าน นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดที่ถูกดำเนินคดี ว่าเป็นกรณีไหนบ้าง แต่ก็ยืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ คดีที่เกิดขึ้นจะทำให้คนมาร่วมชุมนุมมากขึ้น เพราะทำให้เห็นว่าเกิดความไม่ยุติธรรมในประเทศ ส่วนจะปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหาขอให้เป็นตามขั้นตอน แต่ยืนยันว่าไม่รู้สึกกลัว ขอยกสุภาษิตที่ว่า ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ มาใช้กับกรณีนี้
ส่วน นางสาวปนัสยา ให้ความเห็นว่า แม้จะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 แต่จะยังคงยึดมั่นแนวทางการเคลื่อนไหว 3 ข้อเรียกร้อง โดยเฉพาะการปฏิรูปสถาบันต่อไป โดยข้อเสนอที่กลุ่มราษฎรยื่นไปเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน มีจุดประสงค์เพื่อปฏิรูป ไม่ใช่การล้มล้าง แต่ปัจจุบันมีการนำมาตรา 112 มาใช้กับนักเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรหยุด
พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 ที่มาร่วมสังเกตการณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรายงานตัวตามหมายเรียก ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน เมื่อทำบันทึกและให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนก็จะปล่อยตัวกลับบ้านไป โดยไม่กำหนดเงื่อนไข แม้จะเป็นข้อหาร้ายแรงก็ตาม
ภายหลังให้ปากคำนาน 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 16.20 น. นายอานนท์ กล่าวว่า ทุกคนให้การปฏิเสธตาม ม.112 ตลอดข้อกล่าวหา ยังยืนยันไม่กังวลอะไร สิ่งที่ทำก็เพราะอยากให้สังคมรู้ อย่าไปรู้สึกกลัว เราสู้อย่างตรงไปตรงมา
นอกจากนี้ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำราษฎร ได้ทวีตภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า ได้รับหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ โดยให้มารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.บางโพ ในวันที่ 7 ธ.ค. 2563 เวลา 10.00 น.
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ihHiEQJ--iI