วันที่ 30 พ.ย. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณีพักบ้านหลวง ว่า

 

ขณะนี้คณะรัฐมนตรีทุกคนยังคงทำหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมายปกติ ไม่มีใครกังวลอะไร และ รัฐมนตรีไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ เพราะแต่ละคนถือว่าเรื่องนี้มีระเบียบภายในของกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การใช้บ้านพักอยู่แล้ว และกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

 

ส่วนภาพรวม พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงสั่งการติดตามงานปกติไม่มีสัญญาณอะไร ว่าคณะรัฐมนตรีจะต้องกังวลอะไรกับเรื่องนี้ รวมถึงพรรคพลังประชารัฐก็ไม่กังกล แต่ยอมรับห่วงเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชน ว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่เงื่อนไขการเพิ่มระดับการชุมนม แต่เรื่องที่พรรคคุยกันคือกรณีที่รัฐสภาจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ วันที่ 1 ธ.ค.นี้

 

ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย พล.อ.ประยุทธ์ พักอาศัยในบ้านพักทหาร ว่า คำวินิจฉัยจะเป็นบรรทัดฐาน ให้ข้าราชการที่เกษียณอายุราชการแล้วสามารถอยู่บ้านพักหลวงได้หรือไม่

 

ส่วนจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ซึ่งต้องรอดูประเด็นอีกครั้ง แต่หากศาลมีคำวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถพักบ้านหลวงได้ ก็จะกระทบต่อรัฐมนตรีอีก 2 คน ที่อยู่บ้านหลวง ซึ่งขณะนี้พรรคกำลังตรวจสอบว่ายังอยู่บ้านหลวงหรือไม่

 

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เกษียณอายุราชการแล้ว เป็นราชการการเมือง ไม่เข้าข่ายระเบียบบ้านพัก และบ้านพักสวัสดิการ ไม่สามารถพักบ้านพักสวัสดิการได้ ประกอบการพักบ้านพักรับรองก็ใช้สำหรับการต้อนรับแขกชั่วคราว ไม่อาศัยอยู่เป็นปี

 

ส่วนมีการเทียบเคียงกับกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกตีความว่าเป็นลูกจ้าง ในกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องการรับผลประโยชน์ ที่ขณะนี้ถือเป็นข้าราชการการเมือง เมื่อคำนวณเงินจากการอยู่บ้านหลวงหลังเกษียณมา 5 ปี จะสามารถคำนวนผลประโยชน์ได้เกินล้านบาท ซึ่งถือว่าขัดกันของผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 (3) และเป็นการใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง คือต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

 

และการอ้างเรื่องการรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีชัดเจนอยู่แล้ว ทหารไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการรักษาความปลอดภัย และนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ได้ร้องขอจากทหาร

 

อีกทั้งไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่บอกเหตุที่เป็นอันตราย ที่นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องเข้าไปพักในบ้านพักทหาร ซึ่งในอดีต อดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนก็มีเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยมากกว่า แต่ก็ไม่เคยเข้าไปอยู่ที่บ้านพักทหาร ล้วนอาศัยอยู่บ้านพักส่วนตัว หากนายกรัฐมนตรีไม่กล้าพักบ้านพักตนเอง ก็ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในการดูและประชาชนได้

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/f6iryIkFNg0