ต่างประเทศ
นับถอยหลังศึกใหญ่! การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
โดย
26 ต.ค. 2563
1.2K views
ใกล้แล้วสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ที่ปีนี้จะแตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าจะมีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นมีเปอร์เซนต์สูงมากที่เราจะยังไม่ทราบว่า ใครจะชนะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐในค่ำคืนของวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับเวลาบ้านเราก็ช่วงสายๆ ของวันที่ 4 พฤศจิกายน
มาดูทางฝั่งพรรครีพับลิกันกันก่อน ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ที่สร้างสีสันให้กับการเมืองสหรัฐฯ และสร้างแรงกระเพื่อมให้กับการเมืองโลก ตลอด 4 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นโยบายต่างๆที่ออกมา ล้วนคำนึงถึง America First ทั้งสิ้น การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องมาติดตามว่า ทรัมป์จะได้รับความไว้วางใจจากชาวอเมริกันอยู่ต่อสมัยสองหรือไม่ และแน่นอนค่ะว่า รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ยังคงเป็นคู่หูลงศึกเลือกตั้งด้วยกัน
ขณะที่ฝั่งพรรคเดโมแครต ปีนี้ส่งอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้ที่เคยทำงานและสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยอายุอานามที่มากแล้ว กลับกลายเป็นจุดอ่อนของเขาว่าจะสามารถดำรงตำแหน่งได้มีประสิทธิภาพหรือไม่ หากเขาได้รับชัยชนะ สำหรับผู้ที่ไบเดน เลือกให้ลงชิงชัยในการเลือกตั้งด้วยกันคือ นางคามาล่า แฮริส สว.จากรัฐแคลิฟอร์เนียวัย 56 ปี และเป็นสตรีอเมริกัน-เอเชียคนแรก ที่ได้เป็นแคนดิเดตตำแหน่งสำคัญนี้
หลายคนมองว่า ทำไมไบเดน ซึ่งในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ก็จะอายุครบ 78 ปี ถึงเลือกแฮร์ริส คำตอบก็คือ ปีนี้สหรัฐอเมริกา เกิดความแตกแยกกันมากที่สุดครั้งหนึ่งก็ว่าได้ โดยเฉพาะจากเหตุการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ที่ตำรวจผิวขาวใช้กำลังเกินกว่าเหตุ จนเขาเสียชีวิต ทำให้เกิดกระแสลุกฮือ และการเคลื่อนไหวของกลุ่ม Black Lives Matter ไปทั่วประเทศและทั่วโลก แฮร์ริส สตรีผิวสีคนนี้ จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการประสานรอยร้าว และเดโมแครตหวังว่า น่าจะช่วยดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มคนผิวสีและฮิสแพนิกได้ ซึ่งถ้าเธอและไบเดน คว้าชัยชนะมาได้ แฮริส จะสร้างประวัติศาสตร์ เป็นผู้หญิงผิวดำเอเชีย ที่จะได้รับตำแหน่งสูงสุดหมายเลข 2 ของประเทศเป็นคนแรก แต่ด้วยประวัติการทำงานของแฮร์ริสในฐานะอัยการซาน ฟรานซิสโกและรัฐแคลิฟอร์เนีย มาตลอด 13 ปี ก็อาจไม่เป็นผลดีเท่าใดนัก เพราะเธอก็สร้างสถิติเช่นกัน เป็นอัยการที่ส่งคดีฟ้องร้องมากที่สุดคนหนึ่ง และผู้ที่ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นผิวสีและฮิสแพนิก
อย่างไรก็ตามความคาดหวังของชาวอเมริกันสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีครั้งนี้ จะต้องนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพิษโควิด ดังนั้นนโยบายในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของใครที่ถูกใจและทำให้ชาวอเมริกันมั่นใจว่า จะนำพาพวกเขาให้หลุดพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด-ไปดูโพล์ล่าสุดกันบ้างค่ะ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังการโต้อภิปรายรอบแรก โพล์ทั่วประเทศ ทรัมป์ตามหลังไบเดนโดยเฉลี่ยแล้วถึง 10 จุด และ แม้ว่าตอนนี้ทรัมป์ จะยังมีคะแนนตามหลังไบเดนอยู่ แต่คุณผู้ชมจะเห็นได้ว่า gap เริ่มน้อยลง
โดยโพล์ของ RealClearPolitics ไบเดน นำ ทรัมป์ 8 จุด (50.8 ต่อ 42.8) (สำรวจวันที่ 11 ถึง 24 ตค)-ขณะที่ NBC News ไบเดน นำ ทรัมป์ 7.7 จุด (51.2 ต่อ 43.5)
แท็กที่เกี่ยวข้อง
