นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. ไปเป็นวันที่ 30 พ.ย. 2563 ซึ่งถือเป็นการขยายต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 7

ทั้งนี้ ศบค.ย้ำว่ายังมีความจำเป็น เพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทำงานเชื่อมโยงกันหลายหน่วยงาน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มากฎหมายใดครอบคลุมได้ รวมถึง พ.ร.บ.โรคติดต่อ อยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขยังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องขั้นตอบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการดูแล State Quarantine เพราะหากใช้กฎหมายตามปกติ จะไม่สามารถดำเนินการกับกรณีผู้ที่ไม่มีอาการป่วยได้ ซึ่งส่วนนี้มีความแตกต่างกัน

“ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการชุมชุม เพราะตามมาตรา 9 ที่ใล้ในการควบคุมโรค มีความแตกต่างจากมาตรา 11 ที่ใช้ควบคุมฝูงชน ดังนั้นจึงเป็นคนละเรื่อง คนละส่วนกัน”

โฆษก ศบค. ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค. ยังได้เห็นชอบผ่อนคลายมาตรการ เพิ่มสัดส่วนจำนวนที่นั่งสำหรับผู้ชมกีฬา ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยประเภทกลางแจ้ง ที่เชียร์เสียงดัง เช่น ฟุตบอล เพิ่มผู้ชมเป็น 50% จากเดิมที่กำหนด 25% หรือ 4 พันคน

ส่วนกีฬากลางแจ้ง ที่การเชียร์เสียงไม่ดัง เช่น เทนนิส เพิ่มผู้ชมเป็น 70% จากเดิมที่กำหนด 50% หรือ 6 พันคน ขณะที่กีฬาในร่ม ที่เชียร์เสียงดัง เช่น มวย เพิ่มผู้ชมเป็น 30% จากเดิมกำหนด 15% หรือ 1 พันคน และกีฬาในร่ม ที่เชียร์เสียงไม่ดัง เช่น สนุกเกอร์ เพิ่มผู้ชมเป็น 50% จากเดิมกำหนด 25% หรือ 2 พันคน

นอกจากนี้ ศบค. ยืนยันสถานการณ์ในภาพรวมยังสามารถควบคุมได้ แต่ยังต้องเข้มงวด และขัดสมดุลระหว่างสุขภาพ กับเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ภายใต้มาตรการดูแลให้ทุกคนปลอดภัย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8-GJHPzAoyo