ประเด็นข่าวรอบวัน 28 ก.ย. 63 - ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 22 ราย / แก๊งค้ายาซิ่งแหกด่าน ทิ้งยาบ้ากว่า 18 ล้านเม็ดหลบหนี

สรุปข่าว

ประเด็นข่าวรอบวัน 28 ก.ย. 63 - ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 22 ราย / แก๊งค้ายาซิ่งแหกด่าน ทิ้งยาบ้ากว่า 18 ล้านเม็ดหลบหนี

โดย

28 ก.ย. 2563

1K views

- ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกเดือน - ปลดล็อก 6 กลุ่มเข้าประเทศ
ศบค.เคาะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน สิ้นสุด 31 ต.ค. - ไฟเขียวจัดแข่งขัน แบดมินตันเวิลด์ทัวร์ พร้อมคลายล็อคอนุญาต 6 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศภายใต้เงื่อนไข กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่าที่ประชุมศบค.ชุดใหม่ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอบที่ 6 ต่อไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ต.ค.2563 โดยย้ำเป็นการใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง นอกจากนี้ยังได้ เห็นชอบตามที่สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ขออนุญาตจัดการแข่งขันแบดมินตันนานาชาติ หรือ BWF World Tour ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนมกราคม 2564
นอกจากนี้ที่ประชุมศบค. ยังรับทราบแนวทางการอนุญาตให้บุคคล 6 กลุ่ม เดินทางเข้าประเทศ ภายใต้มาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข คือ
1.การอนุญาตให้นักกีฬาต่างชาติเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-16 ต.ค. 2563
2.อนุญาตกลุ่มนักบินและลูกเรือ บริษัทการบินไทย ในเที่ยวบินพิเศษขากลับประเทศ Repatriation Flight จากประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 340 คน จะต้องเข้าสถานกักกันโรคของรัฐ
3. อนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราว หรือ Non- Immigrant ประเภทต่าง ๆ เดินทางเข้าประเทศ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน เทียบเป็นเงินไทยไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท
4.กลุ่มผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยว สำหรับกลุ่ม long stay ตามที่ครม.เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 15 กันยายน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเงื่อนไข
5.กลุ่มนักธุรกิจ ที่ถือบัตร APEC Card สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น นิวซีแลนด์ / ออสเตรเลีย / ญี่ปุ่น / สิงคโปร์ และ มาเลเซีย รวมทั้งหมดประมาณ 1 แสนคน
ส่วนสถานการณ์ในไทยวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (28 ก.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 22 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากปากีสถาน 1 ราย ซูดานใต้ 16 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย และ อินเดีย 4 ราย
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,545 ราย หายป่วยแล้ว 3,369 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 117 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดียพุ่งทะลุ 6 ล้านคนแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้ป่วยหลังปลอดเชื้อโควิด จะยังคงมีอาการน่าเป็นห่วง
กระทรวงสาธารณสุขอินดียเผยว่า ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 8 หมื่น 2 พัน 170 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 6 ล้าน 7 แสน 4 หมื่น 702 คน เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 7 ล้านคน ขณะที่ในวันนี้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกก็ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว
และ 6.อนุญาตให้ผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะสั้น และระยะยาว เดินทางเข้าประเทศ 60 วัน สามารถต่อได้อีก 30 วัน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขต้องมีเงินหมุนเวียนในบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน โดยกระทรวงการต่างประะทศจะเป็นผู้พิจารณา
- ผู้บริหารสารสาสน์ สั่งไล่ออกครูจุ๋ม-ผู้เกี่ยวข้อง
ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ทำหนังสือชี้แจง โรงเรียนไม่มีนโยบายให้ลงโทษนักเรียน โดยการทำร้ายร่างกาย แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนรวมทั้งผู้บริหารระดับหัวหน้า และผู้อำนวยการไม่ใสใจตรวจสอบ ทั้งนี้ หากพบผู้บริหารไม่ปฏิบัติตามนโยบาย และนั่งโต๊ะเกิน 2 ชั่วโมง ให้ลงโทษ ตั้งแต่ทำทัณฑ์บน พักงาน และให้ออกจากงาน
ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ แจง ได้เรียกครูจุ๋ม และครูอีก 3 คน สอบสวน โดยให้พ้นสภาพทันที ซึ่งรวมทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 10 คน พร้อมเข้าแจ้งความร่วมกับผู้ปกครอง ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านผู้ปกครองนักเรียน เข้าพบประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้ประสานนำนักเรียนที่ถูกทำร้ายเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจ ที่ศูนย์พึ่งได้โรงพยาบาลตำรวจ
- ผู้เสียหายแจ้งความ ปคบ.ถูกหลอกซื้อวอชเชอร์ โรงแรม 5 ดาว
ผู้เสียหายกว่า 20 คนเดินทางแจ้งความตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. หลังถูกสาวแสบที่ใช้ชื่อว่ากวาง เปิดกลุ่มไลน์หลอกขายโปรโมชั่น ที่พักหรู 5 ดาว แต่ถึงเวลาเข้าพักไม่ได้ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ของโครงการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. มีโควต้ากิ๊ฟวอชเชอร์ราคาถูกเฉพาะคนในกลุ่ม Amazing Travel ซึ่งมีราคาถูกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ยังอ้างว่า เป็นโยบายจากรัฐบาลในช่วงที่อยากให้ประชาชนท่องเที่ยวในราคาถูก ซึ่งในช่วงแรกผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อ ซื้อกิ๊ฟวอยเชอร์จากหญิงคนดังกล่าวเกือบ 100 คน และสามารถจองและเข้าพักได้ตามโรงเรมที่ชื่อดังตามที่นางสาวอ้างหลอกขายได้จริง นอกจากนี้นางสาวกวางยังได้มีการโทรถามและบริการหลังการขายให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และมีการแนะนำต่อไปยังบุคคลอื่นๆ
แต่ในช่วงเดือนกันยายน เริ่มมีปัญหาไม่สามารถใช้วอยเชอร์ เข้าพักในโรงแรมต่างๆได้ เมื่อโทรไปสอบถามทางโรงแรมก็ไม่มีการดำเนินการให้ ขณะเดียวกันผู้เสียหายหลายคนก็ได้ซื้อวอชเชอร์มูลค่าสูงขึ้นเพราะความไว้ใจ จึงพยายามติดต่อหานางสาวกวาง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และโดนตัดการติดต่อ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอก หลังจากนั้นได้พยายามหาข้อมูลและตั้งกลุ่มผู้เสียหาย จนพบว่านางสาวกวางเป็นชื่อปลอมที่ถูกตั้งขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่ามีชื่อปลอมอีกหลายชื่อ และหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายกลุ่ม มีการใช้บัญชีในการรับโอนเงินถึง 2 บัญชี และจากการพูดคุยพบว่ามีหนึ่งในสองบัญชี ที่ชื่อบัญชีวิลัยลักษณ์ เป็นบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปไม่ต่ำว่า 3 ล้านบาท
ขณะที่บัญชีที่ใช้ชื่อว่า นางสาวภารดี มีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ในความผิดเกี่ยวกับการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังทราบว่า นางสาววิลัยลักษณ์กำลังเตรียมทำเรื่องขอประกันตัว ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงนางสาวภารดี ให้ออกมารับผิดชอบกับผู้เสียหายทุกคน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมสอบปากคำผู้เสียหายก่อนดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
- แก๊งค้ายาซิ่งรถแหกด่านตรวจ เสียหลักคว่ำทิ้งยาบ้ากว่า 18 ล้านเม็ดหลบหนี
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 28 ก.ย.พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษจากประเทศเพื่อนบ้าน ลำเลียงลงพื้นที่ชั้นในของประเทศ ผ่านเส้นทางหลวงสาย 2026 บึงโขงหลง-ดงบัง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.บึงโขงหลง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณบ้านดงสว่าง หมู่ที่ 6 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีบอร์น ด้านหลังมีโครงหลังคาเหล็กทืบ วิ่งผ่านเข้ามาแล้วทำทีชะลอความเร็วรถ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินไปตรวจ รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องขับแหกด่านหลบหนี ไปทางตัวอำเภอบึงโขงหลง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิทยุแจ้งสกัดจับ พร้อมกับขับรถยนต์ไล่ติดตาม 
เมื่อมาถึงท้ายหมู่บ้านพบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ได้เสียหลักพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ไม่พบคนขับแต่อย่างใด จึงได้ประสานให้หน่วยกู้ภัยร่วมตรวจสอบ เมื่อเปิดท้ายกระบะที่มีโครงหลังคาเหล็กออกพบว่ามีกระสอบปุ๋ยสีขาวอยู่ด้านในเป็นจำนวนมากเมื่อเปิดออกดูพบว่าเป็นยาไอซ์และยาบ้าจำนวนมาก คาดจะมียาบ้าประมาณ 18 ล้านเม็ด ส่วนยาไอซ์ยังไม่ได้ตรวจสอบ 
เบื้องต้น ตำรวจเร่งนำของกลางเข้าไปเก็บไว้ที่ สภ.บึงโขงหลง และจะได้ประสานพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้ามาเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝง และตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวเป็นของผู้ใดเพื่อเตรียมออกหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป 
- 'ทรัมป์' เตรียมควักหลักฐานโต้ หลังโดนแฉไม่จ่ายภาษี 
สำนักข่าว The New York Times ของสหรัฐอเมริกา รายงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา เสียภาษีเงินรายได้บุคคลธรรมดา เพียงแค่ 750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23,000 บาท) ในปีที่หาเสียง และปีแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ และในช่วง 15 ปีก่อนหน้านี้ มีถึง 10 ปีที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาไม่จ่ายภาษี ล่าสุด ประธานาธิบดี ทรัมป์ได้ออกมาระบุว่าเรื่องราวดังกล่าวเป็นข่าวเท็จและไม่เป็นจริงอย่างแน่นอน และเขาจ่ายภาษีเป็นจำนวนมากในแต่ละปีซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ ข่าวนี้ออกมาก่อนไม่กี่วันที่จะมีการโต้วาทีของผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กับนายโจ ไบเดน ในวันพรุ่งนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ