มีกรณี 2 แม่ลูกชาวเมียนมาติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย ต้นทางมาจากจังหวัดอยุธยา เข้าเมียนมามาโดยใช้ช่องทางสะพานแห่งที่สอง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 63 และ ทางการเมียวดีทำการกักตัวไว้ที่ จ.เมียวดี และเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่ง 2 แม่ลูกได้ถูกส่งตัวไปยัง จ.ผาอ่าง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้กักตัวพี่สาวของเด็ก พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในวันดังกล่าว ไว้เพื่อรอดูอาการต่อไป

ส่วนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่ามีหญิงชาวเมียนมา อายุ 40 ปี หอบลูกชายวัย 13 ขวบ 1 คน เด็กชายวัย 4 ขวบ 1 คน หนีข้ามน้ำเมยจากฝั่งเมียนมา ที่บริเวณจุดท่าข้ามธรรมชาติบ้านแม่ตาวบ้านไร่ ต.แม่ตาว อ.แม่สอด มาพักนักอาศัยในหมู่บ้านถุงทอง ชุมชนวัดหลวง จึงประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปทำการตรวจสอบ

โดยยอมรับว่า เดินทางข้ามมาจากฝั่งเมียนมา เนื่องจากเกรงว่าจะติดเชื้อโควิด ที่กำลังระบาดในพม่าอย่างน่ากลัว และกลัวลูกๆจะติดเชื้อโควิด 19 ไปด้วย ประกอบกับสามีตนเองทำงานอยู่ฝั่งไทย อยากมาหาสามี จึงตื่นแต่เช้ามืดว่ายน้ำเมยข้ามมายังฝั่งไทย และว่าจ้างรถรับจ้างมาส่งที่บ้านพักดังกล่าว

นอกจากนี้ที่บริเวณป่าไผ่ยักษ์ กลางใจเมือง บริเวณชุมชนสันต้นปิน เขตเทศบาลนครแม่สอด พบชาวเมียนมาใส่รถตู้ รับ-ส่งนักเรียน มาปล่อยทิ้งไว้

จากการเข้าตรวจสอบพบแรงงานชายหญิงจำนวน 10 คน เป็นชาย 7 หญิง 3 นั่งอยู่ในป่าหญ้าและเพิงพัก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนพบว่า แรงงานทั้งหมดไม่มีบัตรประจำตัวแรงงาน หรือ เอกสารใดๆ โดยแรงงานทั้งหมดยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน เดินทางมาจาก ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด เพื่อจะมาหางานทำ โดยมีการใช้รถตู้รับ-ส่งนักเรียน มาส่งที่บริเวณดังกล่าวเพื่อจะหางานทำที่มีการก่อสร้างโครงการบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครแม่สอด แต่พอมาถึงปรากฏว่าไม่มีงานทำ เเถมถูกทิ้งลอยเเพ ก็ต้องรออยู่ที่นี้ไม่รู้จะไปไหน

หลังจากทำการสอบสวน เจ้าหน้าที่ ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด สาธารณสุข อ.แม่สอด เพื่อทำการตรวจวัดไข้ คัดกรอง เชื้อไวรัส COVID 19 ชาวเมียนมา ทั้ง 10 คน ซึ่งผลการตรวจตอบสอบไม่พบไข้สูง หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.แม่สอด และเตรียมผลักดันกลับประเทศต่อไป

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/jADkgCDG2QI