สรุป 8 ข้อหา จับกุม 'เพนกวิน' - ผบช.น.เผยมีอีกหลายคน จะถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา

เลือกตั้งและการเมือง

สรุป 8 ข้อหา จับกุม 'เพนกวิน' - ผบช.น.เผยมีอีกหลายคน จะถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา

โดย

15 ส.ค. 2563

1.8K views

จากกรณีตำรวจชุดสืบสวนนครบาลนำหมายจับคดี ม.116 เข้าควบคุมตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นศ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำเยาวชนปลดแอก โดยควบคุมตัวได้ภายในเมืองทองธานี ใกล้กับวัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะเพนกวิน กำลังเดินทางไปสมทบร่วมชุมนุมกับกลุ่ม "ทุเรียนนนท์ ไม่ทนเผด็จการ" ที่ท่าน้ำหอนาฬิกานนทบุรี
หลังควบคุมตัวและแจ้งข้อหายุยงปลุกปั่น ตามหมายจับคดีอาญาที่ 1172/63 มาตรา 116 แก่เพนกวิน และข้อหาอื่นๆรวม 8 ข้อหา ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับ ทนายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดยไม่มีข้อหาตามมาตรา 112 แต่อย่างใด
โดยช่วงหนึ่งนายเพนกวิน บอกระหว่างการจับกุมว่า ผมไม่ยอมรับกระบวนการ ไม่ยอมรับอำนาจ และยืนตัวต้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอุ้มตัวขึ้นรถ แล้วจึงควบคุมตัวไปลงประจำวันที่ สภ.ปากเกร็ด ก่อนจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวไปที่ สน.สำราญราษฎร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพนกวิน เดินทางมาถึงสน.สำราญราษฎร์ ท่ามกลางฝนพรำ โดยมีคุณแม่ตามมาสังเกตการณ์ และได้พูดคุยพร้อมทั้งโอบกอด ก่อนที่เพนกวินจะชูสามนิ้วและเข้าไปในห้องสอบสวน
ขณะเดียวกันมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น นายสมคิด เขื้อคง สส. อุบลราชธานี และ นายวิโรจณ์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาสังเกตการณ์และมีความประสงค์จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นประกันตัว 
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้มวลชนเข้ามาภายในบริเวณ สน.โดยนำแผงเหล็กมากั้นตลอดบริเวณทางเข้า และอนุญาตให้สื่อที่มีบัตรจากกรมประชาสัมพันธ์เข้ามาด้านในเท่านั้น 
จากนั้นกลุ่มมวลชน ได้ขอเข้าไปใน สน.โดยบอกจะขอเข้าไปห้องน้ำ ใน สน. แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมและเพิ่มกำลังคุมเข้มแนวแผงเหล็ก โดยมีการปราศัยขอความร่วมมือไม่ให้มวลชนเข้ามาใน สน.ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะนำ เพนกวิน ไปสอบปากคำต่อที่ สน.ตลิ่งชัน 
ต่อมา พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงการจับกุมนายเพนกวิน ว่าเนื่องจากการชุมนุมวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบการทำความผิดคดียุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ จึงมีการ จับกุม โดยยืนยันจะสอบปากคำและควบคุมตัวไว้ที่สน.สำราญราษฎร์ ที่สามารถคุมตัวได้ 48 ชม. ก่อนฝากขังศาลอาญารัชดา 
ขณะที่เพนกวินได้ออกมาโบกมือทักทายมวลชนผ่านหน้าต่างห้องสอบสวน ว่า ตนสบายดี และบอกว่าที่ถูกจับเพราะตำรวจกลัวข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ขณะ ที่มวลชนที่บุกเข้ามาใน พื้นที่ สน. ตบมือให้กำลังใจ และพอใจที่ไม่นำตัว เพนกวินไป สน.ตลิ่งชัน และยังปักหลักอยู่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อให้กำลังใจ
ล่าสุดเช้านี้ 15 ส.ค.63 เวลา 07.45 น. ตำรวจควบคุมตัวนายพริษฐ ไปส่งศาลฝากขัง โดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน บอกกับนักข่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบแล้วว่าตำรวจไม่สั่งคัดค้านการประกันตัว ในชั้นสอบสวน 
และมีเมื่อช่วงเช้ามีการพาตัวเพื่อนของนายพริษฐ ไปที่บ้านของนายพริษฐ เพื่อค้นบ้าน โดยทวิตเตอร์ ของ TLHR ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า "ตำรวจสืบสวนได้เข้าค้นที่บ้านพัก เเละ ห้องพัก นายพริษฐ์ โดยมีตำรวจทั้งในเครื่องแบบราว 5 นาย และ จนท.ไม่ทราบสังกัดอีกกว่า 10 นาย เข้าร่วม มีเพื่อนของเพนกวิน และ ทนาย ติดตามการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ 
ภายหลังการตรวจค้นเสร็จสิ้น เมื่อช่วง10.40 น. ตำรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือ สิ่งของที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีตามหมายค้น หรือ สิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดตามกฎหมายอื่น ก่อนจัดทำบันทึกการตรวจค้นไว้เป็นหลักฐาน ให้เพื่อนของเพนกวินและทนายลงชื่อ"
ขณะที่ พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดา เพื่อตรวจความเรียบร้อยในระหว่างการไต่ส่วน ฝากขัง นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย
พลตำรวจโทภัคพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจค้นบ้านของนายพริษฐ์ ย่านรังสิต เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนพบพยานหลักฐานบางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อคดี แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวน 
ส่วนการจับกุมนายพริษฐ์ครั้งนี้ยังยืนยันว่าเป็นการจับกุมโดยชอบด้วยกฎหมายที่ศาลอนุมัติหมายจับ แม้ทนายความของผู้ต้องหาจะอ้างว่าเป็นการปฏิยัติข้ามขั้นตอน ไม่มีการออกหมายเรียกก่อน แต่สำหรับข้อหาที่นายพริษฐ์โดนแจ้งนั้น เป็นข้อหาร้ายแรงฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง จึงไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก สามารถออกหมายจับได้ทันที 
พร้อมยืนยันว่าการจับกุมแกนนำนักศึกษาก่อนจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้นั้น เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าใจ เคารพกฎหมาย และชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงใดๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะจัดกำลังไปคอยดูแลผู้ชุมนุมอยู่แล้ว จึงต้องขอร้องให้ชุมนุมอย่างสงบ และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ไม่หนักใจต่อการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น 
อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มผู้ต้องหาที่จะถูกจับกุมจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังมีผู้ต้องหาอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดีอีกหลายคน ทั้งที่ถูกออกหมายจับแล้ว และยังไม่ถูกออกหมายจับ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
แอมเนสตี้แถลงหลังเพนกวินถูกจับกุม
คุณปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวดังนี้  “การจับกุมในวันนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการปราบปรามสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมอย่างสงบโดยรัฐ แทนที่จะให้ความคุ้มครองกับผู้ชุมนุมโดยสงบ ตำรวจกลับใช้กฎหมายปราบปราม เสมือนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อปิดปากผู้แสดงความเห็นหรือวิจารณ์รัฐบาลอย่างสงบ  
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องทางการให้ปล่อยตัวพริษฐ์ ชิวารักษ์โดยทันที รวมทั้งยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมด ทั้งต่อนักกิจกรรมอีก 2 คนที่ถูกจับเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว พร้อมกับผู้ชุมนุมคนอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาเพียงแต่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เรายังกระตุ้นทางการไทยให้หาช่องทางสื่อสารทางเลือก หรือริเริ่มการเจรจากับผู้ชุมนุมโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ
“ความถดถอยด้านสิทธิมนุษยชนนับแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้าดำรงตำแหน่ง เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง พื้นที่ของการเคลื่อนไหวและการแสดงออกอย่างสงบจะยิ่งหดตัวลงมากขึ้น หากประชาคมระหว่างประเทศไม่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยทันที”  
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VmTqw-6s7zI

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ