'หญิงหน่อย' โพสต์ชำแหละงบปี 64 ถามนายกฯ หยุดซื้ออาวุธสักปีจะได้ไหม?

เลือกตั้งและการเมือง

'หญิงหน่อย' โพสต์ชำแหละงบปี 64 ถามนายกฯ หยุดซื้ออาวุธสักปีจะได้ไหม?

โดย

8 ก.ค. 2563

1K views

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ชำแหละงบประมาณปี 64 EP.2 ระบุข้อความว่า

"งบเสริมสร้างกำลังกองทัพ ทั้ง 3 เหล่าทัพของกระทรวงกลาโหม ตั้งผูกพันตั้งแต่ปี 61-66 ณ.ปี64ยังเหลืออยู่ตั้ง 117,000 ล้านบาท ยังมาตั้งงบใหม่ในปี 64 อีกเกือบ 30,000 ล้านบาท รวมทั้งงบสร้างเสริมยุทโธปกรณ์ บวกซ่อมแซมอีกกว่า 10,000 ล้านบาท

เอาเงินกว่า 40,000 ล้านบาทนี้ ไปจ้างเกษตรกรปลูกพืชปรับปรุงดิน และช่วยค่าปรับปรุงการผลิตให้ใช้สารเคมีน้อยลง เพื่อปูพื้นฐานไปสู่การผลิตอาหารปลอดภัย ครัวเรือนละ 15,000 บาท จะได้ประโยชน์คุ้มค่ากว่า

จะช่วยเกษตรกรได้เกือบ 3 ล้านครอบครัว ให้ผลิตอาหารปลอดสารพิษ ได้ทั้งการช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ใหม่ให้เกษตรกร และช่วยให้คนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย เพื่อไทยจะตัดงบเหล่านี้ในกรรมาธิการ เอามาให้ประชาชนเองค่ะ

จากนี้ไปคนไทยกำลังเจอกับ #สึนามิเศรษฐกิจ ครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะนำมาซึ่งความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส การจัดงบประมาณแผ่นดินปี 64 จะจัดงบปกติอย่างทุกปีไม่ได้ ต้องทุ่มทุกบาททุกสตางค์ไปกู้วิกฤตเศรษฐกิจให้ได้ก่อน โดยควรจัดงบไปลงทุนในโครงการที่ทำให้เกิดการสร้างงาน และรายได้ใหม่ให้ประชาชน แต่การจัดงบประมาณปี 64 ยังจัดกันแบบเดิม ๆ

นายกฯยัง #ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับทุกข์ของคนไทย ยังแจกจ่ายงบแบ่งเค้กกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างผู้มีอำนาจกับพ่อค้า บนความทุกข์ยากของประชาชน อย่างงบที่ควรตัดในปี 64 ของกลาโหม แต่พลเอกประยุทธ์ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมไม่ยอมตัด

ดิฉันขอถามพลเอกประยุทธ์ ว่า "หยุดซื้ออาวุธ หยุดสร้างอาคารใหม่ หยุดเช่ารถใหม่สักปีจะได้ไหม?" เพื่อนำเงินจำนวนนี้มาช่วยเกษตรกร และคนตกงาน 8.3 ล้านคนจะดีกว่า ในยามที่ประเทศกำลังเผชิญสึนามิเศรษฐกิจ

ซึ่งดิฉันเชื่อว่า พี่น้องทหารมืออาชีพส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะยอมเสียสละ หยุดซื้ออาวุธ หรือหยุดสร้างอาคารสัก 1-2 ปี แต่คนที่ไม่ยอมตัดงบเหล่านี้มาช่วยชาวบ้าน น่าจะเป็นพวกที่มีอำนาจใช่หรือไม่? ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ารัฐมนตรีกลาโหมที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ ไม่ยอมตัด เพื่อไทยจะตัดในกรรมาธิการ เอามาให้ประชาชนเอง"

ขณะที่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาโต้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงชัดเจนถึงเหตุผลความจำเป็นไปแล้ว และมีการตรวจสอบกับสำนักงบประมาณ ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ทุกประการ โดยเป็นงบผูกพันข้ามปีสำหรับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตและการแบ่งชำระ

ขณะนี้ประเทศมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนอาวุธยุทธโธปกรณ์ให้มีความเพียงพอ เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนงบให้มีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่าประมาณ 80% และเพื่อทดแทนไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาภารกิจป้องกันตามชายแดนต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้ระดับหนึ่งจากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมขอบคุณฝ่ายค้านที่แสดงความเป็นห่วงถึงการใช้งบประมาณของปี 2564 ในครั้งนี้ แต่ขอให้มีความเข้าใจและห่วงใยถึงลูกหลานที่เป็นทหาร จำเป็นจะต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียด้วย

ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะดูแลการดำเนินการทุกอย่างอย่างดีที่สุด จะใช้งบประมาณให้คุ้มค่า เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด สำหรับในส่วนของงบประมาณที่นำมาให้ความช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูประเทศนั้น อยู่ในงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9jGEWBbjGdE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ