ประชุมใหญ่ ปชป. 'จุรินทร์' ไม่ลาออก ย้อนเกล็ด 'วิทยา' ถูกกล่าวหาทุจริต กก.บห.ไม่ลาออกเช่นกัน

วันที่ 23 เม.ย.65 ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค


โดยก่อนการประชุมตัวแทนภาคอีสาน นำผ้าขาวม้ามาผูกเอวให้กับนายจุรินทร์ ถือเป็นการต้อนรับและให้กำลังใจ โดยยืนยันว่าภาคอีสานพร้อมสนับสนุนนายจุรินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันยังรดน้ำอวยพร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์


ทั้งนี้ บรรยากาศในห้องประชุม มีสมาชิกเข้าร่วมคับคั่ง อาทิ นายชวน หลีกภัย นายไพฑูรย์ แก้วทอง นายสัมพันธ์ ทองสมัคร โดยส่วนใหญ่เป็น อดีต ส.ส. และสมาชิกเก่าแก่ สำหรับ ส.ส. ส่วนใหญ่ ประชุมผ่านระบบซูม เนื่องจากยังอยู่ในพื้นที่


สำหรับระเบียบวาระการประชุม เป็นการรับรองรายงานการประชุมใหญ่ สามัญ พรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2564 ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.2564 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2564 การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 43 และมาตรา 61 ซึ่งเป็นรายงานดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงรับรองงบการเงินประจำปี 2564 นอกจากนี้ ยังพิจารณาแผนยุทธศาสตร์ของพรรคแผนหรือโครงการที่จะดำเนินการกิจกรรมสำหรับปีต่อไป โดยเฉพาะการหารายได้ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมือง และการพัฒนาบุคลากรทางการเมือง


อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมเมื่อที่ประชุมดำเนินการถึงวาระที่ 3 เรื่องแผนยุทธศาสตร์ของพรรค 10 แผน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า รู้สึกติดใจแผนข้อที่ 8 และข้อที่ 9 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคทางเพศ ที่พรรคได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้มาตลอด หากจะให้สังคมเชื่อถือ พรรคต้องปฏิบัติให้สังคมเห็น และเป็นตัวอย่างก่อน


แต่ขณะนี้มีเรื่องของอดีตรองหัวหน้าพรรคที่กำลังเป็นข่าวฉาวโฉ่ แม้หัวหน้าพรรคจะออกมาขอโทษสังคมแล้วก็ตาม ในฐานะที่เป็นคนผลักดันให้บุคคลดังกล่าวก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารพรรค แต่สังคมก็ยังไม่จบ เพราะสื่อและสังคมเรียกร้องขอให้หัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบ เนื่องจากพรรคใช้สโลแกน พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค ถ้าคนของพรรคมีปัญหาพรรคก็ต้องรับผิดชอบ หัวหน้าพรรคในฐานะที่ผลักดันบุคคลนี้เข้ามา และมีปัญหาในเรื่องจริยธรรม แม้จะแถลงขอโทษ แต่หัวหน้าพรรคก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบเท่าที่ควร เช่นนี้สังคมจะเชื่อถือพรรคได้อย่างไร


"และยังไม่รวมถึงกรณีประเด็นแชทไลน์ของกรรมการบริหารพรรคหญิงคนหนึ่ง ที่กล่าวหาบุคคลภายในพรรคกับ ส.ส.ของพรรค ในเชิงลักษณะชู้สาว สร้างความเสียหายมาก แต่กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องดำเนินการ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง หัวหน้าพรรคก็ต้องลงโทษผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าวในไลน์ กก.บห. แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่ผมพูดเรื่องนี้ เพราะคาดว่ากรณีแชทไลน์จะส่งผลกระทบต่อพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าอย่างมากแน่นอน ทั้งสองกรณีนี้เชื่อมโยงถึงการแสดงความรับผิดชอบของผู้นำพรรค ผมรู้ว่าตำแหน่งนี้ได้มายาก แต่ตำแหน่งไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับเกียรติภูมิและอุดมคติ กับจุดยืนทางจริยธรรมของพรรค" นายสาทิตย์ กล่าว


จากนั้นนายจุรินทร์ ได้ตอบกลับว่า ตนไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการแถลงขอโทษและลาออกจากคณะกรรมการ ทั้ง 2 ชุดแล้ว ส่วนกรณีนายปริญญ์ ก็ได้แสดงความรับผิดชอบไปแล้ว ถ้าตนลาออกก็เป็นการทิ้งปัญหาพรรค


ทั้งนี้ ได้มีส.ส.อีกหลายคน ขออภิปรายในเรื่องนี้ อาทิ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก แต่มีการปิดไมค์ไม่ให้พูด และนายจุรินทร์จึงสั่งปิดการประชุม


อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเป็นความผิดปกติของการประชุมใหญ่พรรค ทุกครั้งที่ผ่านมาจะเป็นการเปิดประชุมให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ แต่ครั้งนี้กลับมีการเชิญออก โดยให้เข้าเก็บภาพบรรยากาศในการประชุมตอนต้นเท่านั้น และไม่เคยมีการปิดไมค์ไม่ให้สมาชิกพรรคแสดงความเห็นมาก่อน


นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่าขณะนี้ได้เกิดกระแสข่าวภายในพรรค ว่า น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ซึ่งถือเป็นคนใกล้ชิดกับนายจุรินทร์ อาจจะขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค หลังถูกกดดันและถูกวิจารณ์อย่างมากจากที่ได้ส่งข้อความในแชทไลน์กลุ่มของกรรมการบริหารพรรค โดย น.ส.มัลลิกา กำลังพิจารณาตัดสินใจอยู่


ภายหลังการประชุม นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในที่ประชุมมีสมาชิก คนเดียวที่สอบถามกรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา ว่าเป็นอย่างไร และจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนเองได้ชี้แจงกรรมการบริหารพรรคว่าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 2 คณะ และได้แถลงข่าวไปแล้ว โดยคณะกรรมการตรวจสอบจะเข้าไปตรวจสอบ และหาแนวทางป้องกันในอนาคตจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นต้นแบบให้กับทุกพรรคการเมืองในอนาคต รวมถึงกรณีนำข้อความทางไลน์ในห้องกรรมการบริหารพรรคมาเผยแพร่ ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเช่นกัน และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไปในอนาคต


ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ายืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้พูดเรื่องนี้ไปแล้ว ว่าความรับผิดชอบถ้ามันเลยขอบเขตก็จะกลายเป็นความไม่รับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อปัญหาเกิดขึ้นในยุคเราก็ไม่ปัดความรับผิดชอบ เรามีหน้าที่เข้าไปแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ไม่หนีปัญหาซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดถือ ยึดมั่นมาโดยตลอด แม้แต่กรณีนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราชที่ลาออกจากพรรค ในยุคที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกกล่าวว่าทุจริตโครงการไทยเข็มแข็ง ก็แสดงความสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่ง โดยที่กรรมการบริหารพรรคก็ไม่ได้ลาออก


แต่แก้ไขปัญหาด้วยการประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติให้ปรับ ครม. โดยโยกตนเองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อไปแก้ปัญหาจาการลาออกของนายวิทยา ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เคยปฏิบัติ ยุคนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนมาตรฐานและได้ปฎิบัติตามเมื่อนายปริญญ์ ที่ถูกกล่าวหาได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่มีหน้าที่ที่จะแสดงความรับผิดชอบจนเกินขอบเขตจนกลายเป็นหนีความรับผิดชอบ ซึ่งกรรมการบริหารพรรคมีหน้าที่แก้ปัญหา จึงเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ


ส่วนการชี้แจงจะทำให้สมาชิกพรรคมีความเข้าใจหรือไม่ นั้น ไม่มีผู้ใดถามเพิ่ม ทุกคนรับทราบและเข้าใจในการชี้แจง


ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาจะจบหรือไม่ หรือเป็นระเบิดที่รอเวลา นายจุรินทร์ไม่ขอตอบ แต่ยืนยันเรามีหน้าที่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องแก้ปัญหา ทุกวิกฤติมีโอกาส ไม่ได้แปลว่าพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาจะเดินต่อไม่ได้ หรือจบแล้ว เหมือนที่บางคนพูด ทุกยุคทุกสมัยมีปัญหาเกิดขึ้น กรรมการบริหารพรรคที่ถูกสมาชิกเลือกทั่วประเทศ ทุกองค์กรเมื่อมีปัญหา คนที่รับผิดชอบก็ต้องแก้ปัญหา พร้อมเปรียบในรัฐบาลก็มีปัญหา คนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีหน้าที่เข้าไปแก้ปัญหาเพราะถูกเลือกเข้ามาแก้ปัญหา ทุกอย่างมีหลายมุม พร้อมกันนี้นายจุรินทร์ยังขอบคุณสมาชิกที่มาให้กำลังตนเองและกรรมการบริหารพรรค ด้วยความซาบซึ้งใจ ซึ่งหลังนายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์จบ สมาชิกต่างตะโกนคำว่า สู้ ๆ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/VfohjGWbbes