สังคม

รวบแล้ว! หัวขโมยปีนบ้านลักทรัพย์ หนีไหว้หลวงพ่อโสธร ขอพรให้อยู่รอดไม่ถูกจับ

โดย parichat_p

28 ธ.ค. 2565

87 views

รวบโจรชิงทรัพย์หนีมาขอพรพระให้แคล้วคลาด เผลอหลับถูกจับคาวัด กล้องหน้ารถมัดโจรชิงทรัพย์ เจ้าของวิ่งไล่ตามไม่ทัน จำทะเบียนรถได้แจ้งตร.จับ

ขณะเผลอหลับอยู่ในลานจอดรถวัดดัง ตื่นมางงเจอตร.ล้อมรถ สารภาพก่อเหตุจริง เผยมาแวะไหว้พระขอพรแต่ถูกจับคาวัด ตร.ชี้ประวัติโชกโชนตระเวณก่อเหตุ 17 จว.ทั่วภาคกลาง-อีสาน


นี่เป็นภาพจากกล้องหน้ารถในจังหวะที่ผู้เสียหายกำลังถอยรถเข้าบ้าน ก่อนจะเหลือบไปเห็นชายแปลกหน้าถือถุงบางอย่างเดินสวนออกมาจากบ้านของตน ทางผู้เสียหายตั้งสติได้คิดว่าเป็นโจรที่เข้ามาขโมยของภายในบ้านแน่ๆ จึงรีบเปิดประตูรถวิ่งตามออกไป แต่คนร้ายที่จอดรถรออยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านได้รีบขับรถหนีออกไป เจ้าของบ้านพยายามวิ่งตามแล้วแต่ไม่ทัน


โชคดีที่ผู้เสียหายจำยี่ห้อ และทะเบียนรถได้อย่างแม่นยำจึงมาแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ จ.นนทบุรี เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง ของวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา


ต่อมา ชุดสืบสวนสภ.บางใหญ่ ได้ประสานข้อมูลเรื่องเส้นทางหลบหนีของคนร้ายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จนทราบว่า กลุ่มคนร้าย คือ นายอัคคะเมศฐ์ หรืออัค ศรีมหาพรหม และนายนพพร หรือปุ๊ สระทองบ้อง และนายสวิง ดีเทียน ได้เดินทางมาไหว้พระที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ร่วมกันเข้าจับกุมคนร้ายได้บริเวณอาคารจอดรถของวัดโสธร


โดยรายงานการจับกุมระบุว่า ขณะเข้าตรวจค้นจับกุมคนร้ายได้นอนหลับอยู่ภายในรถ เมื่อตื่นมาพบเจ้าหน้าที่ก็ตกใจที่เห็นตำรวจรายล้อมอยู่เต็มไปหมด และได้แสดงหมายศาลก่อนเข้าจับกุม ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยที่มาไหว้พระก็เพื่อขอพรให้รอดพ้นจากการถูกจับกุม แต่พอกลับเข้ามาที่รถก็ได้เผลอหลับไปจนถูกตำรวจตามจับได้ในที่สุด


เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งกลับมาดำเนินคดีที่สภ.บางใหญ่ พร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง ประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยรุ่นวีออสสีเทา หมายเลขทะเบียน กษ - 1966 พิษณุโลก 2.รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นอัลติสสีเทา หมายเลขทะเบียน กค - 1179 อุทัยธานี 3.เสื้อยืดแขนยาว สีดำ จำนวน 1 ตัว ซึ่งนายอัคคะเมศฐ์ สวมใส่ขณะก่อเหตุ 4.ถุงมือผ้า สีแดง จำนวน 1 คู่


ซึ่งคนร้ายสวมใส่ตอนก่อเหตุ 5.รองเท้าคอมแบท จำนวน 1 คู่ ซึ่งคนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุ 6.กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว ซึ่งคนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยได้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุม,รับของโจร ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร


สำหรับผู้ต้องหากลุ่มนี้เคยมีประวัติถูกออกหมายจับในคดีลักทรัพย์ และปล้นทรัพย์ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์ มาแล้วรวมหลายคดี


ตำรวจชุดจับกุมบรรยายพฤติกรรมคนร้ายว่า คนร้ายลงมือแบบมืออาชีพโดยสวมหมวกไหมพรมและสวมถุงมือทุกครั้ง โดยตระเวณก่อเหตุในพื้นที่ภาคกลาง และภาคอีสานกว่า 17 จังหวัด การลงมือจะเลือกบ้านที่ล็อกกุญแจไว้เพราะแสดงว่าเจ้าของไม่อยู่บ้าน และจะใช้รถ 2 คันสลับทะเบียนกัน และขับรถตระเวณก่อเหตุไปเรื่อยๆ ผู้เสียหายที่สงสัยว่าจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายสามารถเดินทางมาตรวจสอบได้ที่สภ.บางใหญ่


นายอัคคะเมศฐ์ กล่าวว่า อยากขอโทษผู้เสียหาย ที่ก่อเหตุไปก็เพื่อเอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนก่อเหตุจริง แต่ไม่ถึง 17 จังหวัด ส่วนใหญ่จะเป็นทางผ่านมากกว่า และเวลาก่อเหตุก็ไม่ได้วางแผนอะไร เพียงแค่สบโอกาสก็ลงมือเลย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/x9dgXQyoaQ8

คุณอาจสนใจ

Related News