มติเอกฉันท์! ศาลรัฐธรรมนูญชี้ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ส่วนความชัดเจน เรื่องร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในที่สุดวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยแล้วว่า ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่าระบบเลือกตั้ง แบบบัตร 2 ใบ สูตรหาร 100 จะได้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน



โดยวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุม เพื่อแถลงคดีด้วยวาจา และลงมติ ตามคำร้องที่ ประธานรัฐสภา ส่งความเห็น ของ ส.ส.พรรคเล็ก และ สมาชิกวุฒิสภา ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า "ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่รัฐสภาแก้ไข ให้กลับไปใช้ระบบบัตร 2 ใบ สูตรหาร 100 แบบปี 2540 นั้น ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่



เนื่องจากทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบ ถูกละเมิดสิทธิ และยังไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ต้องการให้ใช้ระบบเลือกตั้งแบบ จัดสรรปันส่วนผสม



การวินิจฉัยครั้งนี้ศาลพิจารณาเนื้อหา ใน 2 มาตราของร่างกฎหมายเลือกตั้ง คือ มาตรา 25 และมาตรา 26 ซึ่งมาตรา 25 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการยกเลิกขั้นตอน การคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ กรณีต้องเลือกตั้ง ส.ส.เขต ใหม่ (เลือกตั้งซ่อม) ในบางเขต หรือบางหน่วย ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขของระบบบัตรใบเดียว พอเปลี่ยนมาเป็นระบบบัตร 2ใบ ก็ไม่ต้องมีการคำนวณใหม่ เพราะ ส.ส.เขต กับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แยกคะแนนกันคนละใบ ไม่ผูกโยงกัน เหมือนปี 2560 กรณีนี้ศาลมีมติ เอกฉันท์ ว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ



ส่วนมาตรา 26 ก็คล้ายกัน เป็นการยกเลิกขั้นตอนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรณีต้องเลือกตั้ง ส.ส.เขตใหม่ (เลือกตั้งซ่อม) แต่เป็นกรณีหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ไม่เกินหนึ่งปี เดิมเวลามีการเลือกตั้งซ่อมก็จะมีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ ตามคะแนนที่ได้ เกิดเป็น กรณี ส.ส.ปัดเศษขึ้นมา หรือ บางคนเป็น ส.ส.บัญชีรายได้เพียงไม่กี่วัน พอมีเลือกตั้งซ่อม คะแนนเปลี่ยน ก็ต้องพ้นจาก ส.ส. ก็มี เมื่อมีการเปลี่ยนระบบใหม่ เงื่อนไขนี้ก็เลยต้องยกเลิก กรณีนี้ ศาลมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญเช่นกัน



กระบวนการหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำร่างกฎหมายลูก ทั้งกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายพรรคการเมือง ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป



ทางด้าน อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ก็โพสต์ ถึง ผลพวง หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 6 ผลพวงด้วยกัน อ.สมชัย บอกว่า หลังจากนี้ หนทางสู่การเลือกตั้งก็จะโล่ง พรรคเพื่อไทย หุ้นขึ้นพรวด ๆ ส.ส. พรรคอื่น จะแสดงท่าทีขอเข้าร่วมมากขึ้น หากถึงปลายเดือน มกราคม 2566 ยังไม่ยุบสภา เราจะเห็น ส.ส. ที่ต้องการย้ายพรรค ลาออกแบบเป็นกลุ่มก้อน



การรวมตัวของพรรคขนาดเล็ก จะเกิดขึ้น แต่ โอกาสเข้าพรรคใหญ่ก็ยาก เพราะเขามีตัววางไว้แล้ว พรรคเล็กคงต้องรวมกันเอง การยุบสภาจะยังไม่เกิดขึ้น เพราะนายกรัฐมนตรี ต้องหาเวลาสร้างคะแนนนิยมในพรรคใหม่ และหาจังหวะที่อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ



สิ่งที่ต้องจับตาต่อไป คือ รูปแบบการแบ่งเขตของ กกต. ว่าจะเป็นธรรม หรือเป็นไปเพื่อเอื้อพรรคใดหรือไม่ ส่วนเรื่องยุบพรรคในจังหวะการเลือกตั้ง ก็ยังกระพริบตาไม่ได้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/pW-DmBSBqHM