รองผู้การ 6 ยันไม่ได้เรียกรับเงิน ปมช่วย 'ตู้ห่าว' ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก' ขอ 3 สัปดาห์ ปิดคดีทุนจีนสีเทา

เรื่องรถยนต์ของกลาง 4 คันที่ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ในขณะนั้นปล่อยไป และถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินคันละ 2 ล้านบาท ล่าสุดเจ้าตัวยืนยันกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า ไม่จริง



จากกรณีที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 มีคำสั่งให้ พันตำรวจเอก ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังถูกชุดสืบสวนคลี่คลยาคดีกลุ่มทุนจีนสีเทา ของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มีข้อมูลว่ารองผู้บังคับการฯ เรียกรับเงินการคืนรถหรูที่ผับจิงหลิงจำนวน 4 คัน เป็นเงินคันละ 2 ล้านบาท รวม 8 ล้านบาท



ล่าสุดทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง พันตำรวจเอก ณัฐพล ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์ตามที่มีกระแสข่าว และการมีคำสั่งย้ายนั้น ก็เป็นการกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 อยู่แล้ว เป็นเพียงเรื่องของการปรับกำลัง ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ถูกเรียกให้เข้าไปชี้แจง และได้ยืนยันกับนักข่าวอีกครั้งว่า ทำทุกอย่างตามหน้าที่ และไม่มีความกังวล



ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า กรณีรองผู้บังคับการนครบาล 6 หากไม่มีมูลคงดำเนินคดีไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังต้นสังกัด คือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ว่าอาจเข้าข่ายในเรื่องของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157



ส่วนตำรวจ สน.ยานนาวา 2 นาย และ รองผู้กำกับการ จราจร สน. ลาดพร้าว 1 ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวนาย หวังเจิ้นหนาน หลานชายของ นาย ตู้ห่าว ถูกดำเนินคดีเช่นกัน แต่ตำรวจ ตม. ที่เอื้อเรื่องวีซ่าคนจีน จะโดนเป็นรายต่อไป



ขณะที่กรณีภรรยาของนายตู้ห่าว ซึ่งมียศเป็นพันตำรวจเอกหญิง สังกีดกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นหลานสาวของ พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจจะเชิญมาให้ปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สินของนายตู้ห่าว หรือไม่ หากพบผิดจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้นเช่นกัน



สำหรับคดีนายทุนจีนทำธุรกิจสถานบันเทิงในไทย บิ๊กโจ๊กบอก เดินหน้ายึดทรัพย์ และขยายผลจับเครือข่ายคาดว่าจะปิดคดีได้ภายใน 3 สัปดาห์



พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ กล่าวถึงผลการสอบสอบสวน นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ นายตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน ว่าจากการสอบสวนเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธและขอไปให้การในชั้นศาล ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ยืนยันว่าตำรวจก็มีหลักฐานที่ชัดเจน พร้อมคัดค้านประกันตัว



โดยหลังจากนี้จะมีการดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มและยึดทรัพย์สิน ของเครือข่ายนายตู้ห่าวทั้งหมด ซึ่งจะเร่งทำคดีดังกล่าวให้จบภายใน 3 สัปดาห์ พร้อมกับชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดให้กับสังคมได้รับทราบ รวมถึงจะมีการรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะขยายผลไปถึงทุนจีนสีเทาที่ใหญ่กว่า ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนกลุ่มคนจีนที่ลักลอบมาทำธุรกิจในไทย หากพบผิดจะมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศจีนทั้งหมด เนื่องจากตอนนี้ได้มีการประสานกับทางการจีนแล้ว



ส่วนความสัมพันธ์ของนายตู้ห่าว ที่มีความเชื่อมโยงกับอดีตรัฐมนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องในพรรคการเมือง ก็จะต้องมีการสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนก่อน แต่จะไม่มีการเชิญตัวมาสอบปากคำ ซึ่งการรวบรวมหลักฐานเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องให้มีความชัดเจน หากพบผิดจะมีการออกหมายจับทันที



ด้าน พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับให้ตำรวจได้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย หากไม่รอบคอบก็จะทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นการกวาดบ้านทำให้ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจดีขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/H45V3Y51pgg