ไอ้เหี้ยมบุกบ้าน ยายวัย 75 ฮึดสู้ปกป้องผัว-ลูก โดนแทงยับดับสลด ตร.เร่งล่า เชื่อเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจเชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมยาย 75 ปี เป็นคนในพื้นที่ และมีความคุ้นเคยกับผู้ตาย เร่งแกะเบาะแสคนร้ายหลังพบรอยนิ้วมือและรอยเท้าในที่เกิดเหตุ

ภาพวงจรปิดที่เห็นคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี สวมหมวกลายพรางปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน- ขาว ด้านหน้าของเสื้อมีตรายี่ห้อปูนซีเมนต์ยี่ห้อหนึ่ง สวมกางเกงขายาวสีดำ ขี่จักรยานยนต์สีชมพู ผ่านบ้านหลังหนึ่งก่อนมุ่งหน้าไปก่อเหตุฆาตกรรม นางสุธาสินี อายุ 75 ปีเสียชีวิต ซึ่งอยู่บ้านหลังสุดท้ายของซอยแห่งนี้ โดยวงจรปิดดังกล่าว บันทึกเหตุการณ์ได้ไว้ได้เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 10.20 น. ผ่านไปเพียง 2 นาที คนร้ายก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับมา โดยคาดว่า การขับมาครั้งแรกเป็นการมาดูลาดเลาก่อนจะมาก่อเหตุ

จากนั้นก็พบวงจรปิดคนร้ายย่องเข้ามาในบ้าน โดยมีสุนัขเหมือนพยายามเห่า แต่ก็กระดิกหางให้ โดยคนร้ายมาย่องแอบที่ประตูแล้วพยายามจะเปิดแต่เปิดไม่ได้ แล้วย่องไปออกไปอีกด้านของตัวบ้าน

ส่วนอีกมุมเป็นจุดที่ นางสุธาสินี นั่งอยู่ภายในบ้าน แล้วคนร้ายเดินผ่าน แต่นางสุธาสินี ผู้ตายขณะน้้น กำลังดูโทรศัพท์จึงไม่เห็นคนร้าย แต่อย่างใด โดยคาดว่า คนร้ายพยายามหาช่องทางตรงจุดนี้แล้วเข้ามาก่อเหตุฆ่านางสุธาสินี ด้วยใช้ของมีคมแทงไปตามร่างกายรวมแล้วหลายสิบแผล โดยคนร้ายได้เงินไปประมาณ 4 พันบาท รวมถึงพระเครื่องของแม่หายไป

ลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า ตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามา 11 ปีแล้ว จำเป็นต้องทานยานอนหลับ โดยกลางคืนก่อนนอน ตนทานยานอนหลับ 11 เม็ด (ยืนยันว่าแพทย์เป็นคนสั่งยาให้จริง) และนอนอยู่ในห้องกับคุณพ่อที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ทำให้ตนหลับลึกจนตื่นมาอีกทีเวลาเที่ยงนิดๆ ซึ่งมาเห็นกระเป๋าตนเปิดอยู่ เข้าใจว่าแม่เข้ามาเปิด แต่พอมาดู เห็นแม่นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ช็อกและตกใจ พยายามโทรบอกพี่สาวและพี่ชาย พร้อมโทรแจ้ง รถพยาบาลให้มาช่วยเหลือ แต่พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว

ซึ่งพี่ชายตนมาตรวจสอบวงจรปิด ก็พบว่าคนร้ายแอบปีนเข้ามาในบ้านตั้งแต่ช่วง 11.15 น. แล้วเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งขณะนั้น แม่พยายามร้องขอชีวิต "อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันแก่แล้ว" ตนคาดว่าคนร้ายอาจเป็นพวกเมายา หรือเป็นคนงานก่อสร้างที่มาทำทางบริเวณแถวนี้ หรืออาจเป็นคนเลี้ยงวัวที่คุณแม่เคยจ้างวานมาตัดหญ้า

ขณะที่ลูกสาวคนโต เล่าว่า ปกติแม่เป็นคนที่รักครอบครัวมากเป็นคนที่แข็งแรง สุขภาพร่างกายดีเป็นชอบทำบุญ วันเกิดเหตุตนเชื่อว่า แม่พยายามที่จะปกป้องไม่ให้คนร้ายเข้าไปในบ้าน เพราะพ่อป่วยติดเตียง และน้องสาวของตนก็กำลังป่วยและหลับอยู่ พร้อมแสดงความมั่นใจว่าตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุนี้ได้แน่นอน

เมื่อช่วงเช้า ทางครอบครัวได้นิมนต์พระสงฆ์ 3 รูปมาประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อส่งวิญญาณของคุณแม่ให้ไปสู่สุคติ

ด้านเพื่อนบ้านของผู้ตาย เล่าว่า ตนอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 10 ปี ปกติเวลากลางวันค่อนข้างเงียบ เพราะมีพื้นที่รกร้าง ที่ดินว่างเปล่าเว้นระยะห่างกันไป ช่วงเกิดเหตุตนออกไปกินข้าวที่บริเวณปากซอย แต่ตนมาทราบเรื่องเพราะภรรยาโทรไปบอกว่ามีตำรวจมาหน้าบ้านเต็มไปหมด

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบวงจรปิดที่บริเวณหน้าบ้าน ก็พบเห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ผ่าหน้าบ้านตนไป และคาดว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้ทางเข้าทางออกเป็นอย่างดี

ขณะที่ พันตำรวจเอก วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ ผู้กำกับการ สภ.ชะอำ ได้ประชุมชุดสืบสวนหลายส่วนที่ระดมเข้าพื้นที่ ทั้งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี , ชุดสืบสวน สภ.ชะอำ และกองปราบปราม โดยจากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น คาดคนร้ายน่าจะมีประสบการณ์ในการก่อเหตุมาก่อน เพราะขณะลงมือมีเจ้าของบ้านพักอาศัยอยู่แต่ก็ยังกล้าลงมือ และอาจเคยเข้าไปภายในบ้านพักหลังดังกล่าวมาก่อนหน้าแล้ว

ตอนนี้อยู่ระหว่างการไปตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย และประเมินว่า หลังก่อเหตุคนร้ายน่าจะเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ที่่ใช้ก่อเหตุจากรถจักรยานยนต์สีชมพู ไปเป็่นคันอื่น แต่ตำรวจก็ไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนี เพราะค่อนข้างจะเห็นใบหน้าชัดเจน รวมถึงตำรวจยังพบลายนิ้วมือและรอยเท้าคนร้ายด้วย ซึ่งจะเป็นหลักฐานที่จะมัดตัวคนร้าย

และขณะนี้ ผลชันสูตรศพผู้ตายพบ ร่องรอยบาดแผลทั้งหมด 32 แผล แต่เป็นแผลที่เป็นรอย ไม่ใช่การจ้วงแทง รวมถึงเป็นแผลที่เกิดจากร่องรอยการต่อสู้อย่างรุนแรง เชื่อว่าผู้ตายปกป้องไม่ให้คนร้ายเข้ามาในบ้าน เพราะในบ้านยังมีคนป่วย

รับชมทางยูทูปที่ :https://youtu.be/MZUpu0ll3IA