แกนนำ "รวมไทยสร้างชาติ" ปราศรัยใหญ่ "ธนกร" ขิง "บิ๊กตู่" ก็หล่อ เชื่อสมัยหนุ่ม ๆ ทรงอย่างแบด

พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายปิดการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ห้อง Exhibition Hall ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในหัวข้อ “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ออกมาช่วยกันรักษาบ้านเมือง รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งก็กลับมาใช้สถานที่ ที่ถือว่าเป็นสถานที่ความสำเร็จของรัฐบาลในการจัดการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปลายปีที่แล้วและยังเป็นสถานที่เปิดตัว พลเอกประยุทธ์ สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี


ซึ่งบรรยากาศมีบรรดากองเชียร์แต่ละเขตทยอยเดินทางมายังห้องประชุมจนเต็มพื้นที่ ในเวลา 17.00 น.โดยเวที เริ่มต้นจากการเปิดตัวส.ส. 33 เขต ของกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการปราศรัยอย่างเป็นทางการ โดยระหว่างนั้นพิธีกรได้มีการกล่าวปลุกใจความรักชาติ ความเป็นช้างศึกอยู่ตลอดเวลา


โดยเวทีปราศรัยเริ่มต้นโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เราเป็นช้างศึกไม่เจ็บไม่ป่วย อีก 24 ชั่วโมงพร้อมแล้วที่จะสู้เพื่อรักษาสิ่งที่ดีและต่อสู้เพื่ออนาคตลูกหลานชาวไทย สู้ไปกับผู้นำของเราที่ทุกจังหวะหัวใจเต้นเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ร้องขออย่าเป็นเพียงพลังเงียบและจากนี้พลังเงียบจะต้องไม่เงียบ จะส่งเสียงดังขึ้นมา เหล่าช้างที่ถูกปรามาสว่าเป็นช้างป่วยทั้งหลายจะกลายพันธุ์เป็นช้างศึก ถ้าไม่ต่อสู้วันนี้ จะเสียใจในภายหลัง และ 14 พ.ค.ต้องตัดสินใจมาสู้


ด้านพลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองไม่ใช่สถานการณ์ปกติจากโลกสวยไม่ได้ คำสั่งของการเลือกตั้งคือช่องทาง การเข้าสู่อำนาจรัฐในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีขบวนการตัดทอน บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติซึ่งปรากฏให้เห็นแล้ว เราจะต้องออกไปใช้สิทธิรวมกันเป็นพลังหนึ่งเดียว วันนี้ประเทศชาติต้องทำต่อเพื่อแก้ไขปัญหาของคนในชาติ เราต้องการผู้นำที่เผชิญปัญหาได้ในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์วิกฤต ก่อนที่จะย้ำว่าอย่าปล่อยให้บ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์อันตราย


ด้านสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยึดมั่นใน 3 เสาหลัก เดินระวังเข้าคูหาขอให้นึกถึงการแก้ไขปัญหาของประเทศโดยลุงตู่ ขอให้มองว่าผู้แทนตัวแทนของท่านที่สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติคือคนที่ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อตระกูลใครตระกูลหนึ่ง พร้อมฝากว่า กำหนดฤทธิ์ทำงานบริหารประเทศชาติบ้านเมืองด้วยความคิดคำอ่านค่าตัดสินใจสิ้นสูญเสียสละ เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว ถ้าเลือกนายกที่ไม่สามารถตัดสินใจได้เองอย่างเด็ดขาดเด็ดเดี่ยว ต้องไปถามคนอื่น แล้วเมื่อไหร่จะสามารถบริหารประเทศได้


โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ผมมีโอกาสทำงานกับพลเอกประยุทธ์มาโดยตลอด บอกได้เลยว่าวันนี้เราต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง ต้องการผู้นำที่สามารถนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งหลายพรรคการเมือง แนะนำแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่มีใครสู้พลเอกประยุทธ์ได้เลย แม้แต่พรรคการเมืองเดียว


ขณะเดียวกันนายธนกร ยังกล่าวถึงพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนหนึ่งเป็นลูกอดีตผู้นำ ที่ดูไม่มีหลักการ เป็นไม่ได้หรอกและพรรคนี้ประชาชนชอบหรือไม่ว่าที่ผ่านมา บอกพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคเผด็จการ พรรคของท่านเป็นพรรคประชาธิปไตย แต่ดูซิว่าในพรรคเหล่านั้นไม่ได้มีกระบวนการประชาธิปไตยเลย หากมีประชาธิปไตยจริงท่านไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายก เพราะในพรรคของท่านมีคนอีกหลายคน


ขณะที่พรรคก้าวไกล ผู้นำพักเท้าพูดอย่างหนึ่งเที่ยงพูดอย่างหนึ่ง ยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรีก็โกหกแล้วจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ตนไม่ได้พูดเอง ดูแล้วบ้านเมืองไม่ใช่ให้เด็กมาเล่นขายของ แค่บริหารบริษัทยังเจ๊งแล้วจะบริหารประเทศได้อย่างไร ดูแล้วไม่มีใครสู้พลเอกประยุทธ์


ดังนั้นวันที่ 14 พ.ค ขอ ประชาชนทุบหม้อข้าวตัวเองเลือกพลเอกประยุทธ์ทั้งประเทศ เราไม่สามารถแบ่งใจให้ใครได้อีกแล้ว หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ขออย่ามองคนที่หน้า แม้หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะหน้าตาดีแต่พลเอกประยุทธ์ก็หล่อเป็นน้องณเดชน์ และผมเชื่อว่าสมัยพลเอกประยุทธ์หนุ่ม ๆ ทรงอย่างแบด ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากกองเชียร์ได้เป็นอย่างดี


ขณะเดียวกันยังวิจารณ์ถึงครม. พรรคก้าวไกลว่า ว่าน่ากลัวมาก เวลาพูดแล้วตาโตน้ำลายฟูมปาก พวกนี้ต้องไปอยู่ใกล้หมอคือนายวิโรจน์ วิโรจน์มันขาดยา ต้องไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่วนคนที่ชื่อเจี๊ยบ จะต้องไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กิริยามารยาทดีมาก ผมไม่อยากจะว่า พรรคใช้สมองส่วนหลังคิด คือสมองของสัตว์เลื้อยคลาน แต่คนไทยทั้งประเทศใช้สมองส่วนหน้าเพราะสมองส่วนหน้า ใช้คิดดีทำดี แต่สมองส่วนหลังผมไปอ่านหนังสือเจอก็เพิ่งรู้ว่าสัตว์เลื้อยคลานสมองอยู่ที่หลัง


พร้อมขออย่าเชื่อเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะมันทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่บัตรลุงตู่และเบี้ยผู้สูงอายุทำได้แน่นอน บางพรรคคิดแต่นโยบายหาเสียงอย่างเดียว เงินดิจิตอลลอยอยู่ในอากาศ แต่เงินที่ลุงตู่ให้อยู่ในบัตร ลุงตู่เป็นเงินที่อยู่ในกระเป๋า วันนี้ถ้าพี่น้องไม่เลือกพี่ตู่ พี่ตู่ต้องกลับบ้านพวกเราก็จะลำบาก ผมเองไม่ได้มีความทะเยอทะยาน แต่ดีใจที่ทำงานอยู่กับลุงตู่กับพี่ตู่ ได้อยู่กับคนดี คิดถึงแต่ประชาชน ดังนั้นจึงมาเลือกลุง


ด้านนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กล่าวว่า วันนี้ตนใส่เสื้อสีดำ ปกติตอนใส่สีเทา เพราะมีเงินสีเทาในการซื้อเสียงมากที่สุดทั่วทั้งประเทศ บางพรรคท่านก็รู้ว่าโคตรเหง้าทุจริตโกงมาโดยตลอด พร้อมกับยังกล่าวว่าสิ่งที่อันตรายคือนักการเมืองเลว กับข้าราชการชั่ว ที่จะเป็นตัวร้ายทำลายประเทศชาติ จากนักการเมืองเลวในพรรคการเมืองเกิดขึ้น 14 พ.ค.นี้ ต้องปกป้องประเทศโดยการไม่เลือกคนชั่ว มามีอำนาจ เพื่อไม่ให้มีรัฐบาลชั่วเหมือนในอดีต ซึ่ง 8 ปี พลเอกประยุทธ์ไม่เคยทุจริต ไม่เคยคบคนชั่ววันนี้เราจึงไม่มีเงินซื้อเสียงเหมือนพรรคอื่น


ขณะที่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ผู้สมัครส.ส.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ผมมายืนยันว่านายกคนต่อไปชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอนและดีที่สุด พวกเราเป็นประชาธิปไตยและเป็นอนุรักษนิยมที่ก้าวหน้า นำไปสู่ความสงบทั้งแผ่นดิน ส่วนสาเหตุที่ผม มาอยู่กับพลเอกประยุทธ์ ฝากบอกผมเป็นโจรว่าเป็นโจรที่กลับใจ เคยคิดจะสังหารในสภาหาเรื่องอภิปรายรูปแบบแต่สุดท้ายพบว่า พลเอกประยุทธ์ไม่มีปัญหาเรื่องโกงกินการคอร์รัปชัน


โดยพลเอกประยุทธ์ เดินทางมาถึงในเวลา 16.20 น.โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว Toyota Alphard สีดำ หมายเลขทะเบียน 1122 กรุงเทพมหานคร