วิษณุ ยัน รบ. ไม่มีแผนตั้งรับ ปม วาระ 8 ปี นายก บอก ไม่มีใครกังวล

(1 ส.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปมปัญหา การดำรงตำแหน่ง 8 ปี นายกรัฐมนตรี ว่าใครสงสัยก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลไม่ส่ง ซึ่งทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นตีความในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ย้ำรัฐบาลไม่ยื่นตีความ แต่เป็นฝ่ายตั้งรับ





ส่วนมีความกังวลหรือไม่นั้นนายวิษณุระบุว่า “ไม่เคยมีใครพูดว่ากังวล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเชื่อมั่น รู้สึกเฉยๆ ถ้ามันไม่ถูก ก็นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเข้าดำรงตำแหน่งในปี 2557 ก็จะเป็นไปตามนั้น ซึ่งเมื่อมีการยื่นแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่เรียกไปชี้แจง แต่จะทำหนังสือส่งมาแล้วให้ตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งรัฐบาลก็ต้องตอบว่ามีความเห็นเป็นอย่างไร แต่ถ้าไม่ถามก็ไม่ตอบ”





นายวิษณุ ยังกล่าวด้วยว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย ซึ่งถ้าเป็นประเด็นนี้ศาลจะสามารถพิจารณาเองได้

ไม่ต้องมีใครไปสอนศาล พร้อมยืนยันรัฐบาลไม่ได้มีการเตรียมการ ที่จะตอบคำถามนี้ แต่หากถึงเวลาที่จะต้องตอบก็ยังพอมีเวลา ซึ่งคงไม่ใช่เป็นการถามมาวันนี้ แล้วให้ตอบภายในวันพรุ่งนี้ และตนเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าศาลจะถามรัฐบาลหรือไม่ ส่วนจะใช้เวลาพิจารณานานหรือไม่ เห็นว่าไม่น่านาน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องข้อกฎหมายล้วนๆ ไม่ใช่ปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่มีเรื่องต้องสืบพยาน แต่บอกไม่ได้จะใช้เวลาเท่าใด ศาลจะรู้เอง





เมื่อถามว่าส่วนตัวมั่นใจหรือไม่ ว่าจะผ่านปม 8 ปี ไปได้ นายวิษณุ ระบุว่า “ไม่มี ผมไม่เคยตอบว่ามั่นใจ และไม่เคยตอบว่าไม่มั่นใจ และนายกรัฐมนตรีไม่เคยหารือในเรื่องนี้ และไม่เคยตั้งทีมขึ้นมาศึกษา ถ้าหากจะมีการตั้งทีมขึ้นมาเป็นเรื่องของสภา พร้อมกันนี้ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งรับอะไร รอให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหนังสือมา ถ้าหากมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตาม ม. 82





เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง นายวิษณุ ย้อนถามกลับว่าใครเรียกร้อง และเมื่อนักข่าวตอบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นผู้เรียกร้อง นายวิษณุ บอกว่า รับทราบ





นายวิษณุ กล่าวด้วยว่าหากมีการยื่นตีความ จะยุติการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญสั่ง พร้อมยกตัวอย่างว่าขนาดมีการยื่นตรวจสอบทุจริต หรือไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรม ศาลจะเป็นผู้สั่งเอง ว่าจะให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่





ส่วนการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี คาบเกี่ยวรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ผู้ยื่นควรจะใช้รัฐธรรมนูญฉบับใดนั้น ส่วนตัวไม่ทราบ ผู้ยื่นจะคิดเอง ตนจะไปสอนทำไม และไม่ขอตอบ ว่าเมื่อมีการยื่นแล้ว ควรจะนับอายุการดำรงตำแหน่งในช่วงใด และไม่ทราบด้วยว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้รัฐธรรมนูญฉบับใด





นายวิษณุ กล่าวถึงกระแสข่าวการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ว่า ตนเองไม่ทราบว่าใครต้องการให้กลับไปใช้บัตรใบเดียว เพียงแต่รับทราบจากข่าวเท่านั้น และส่วนตัวไม่ทราบว่าจะสามารถกลับไปใช้บัตรใบเดียวได้อย่างไร เพราะเดิมทีใช้บัตรใบเดียว และมาแก้รัฐธรรมนูญมาเป็นบัตรสองใบ เพราะฉะนั้น หากจะกลับมาใช้บัตรใบเดียวก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม และในคณะรัฐมนตรีไม่เคยมีใครสอบถามเรื่องนี้ ทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ และไม่เคยมีใครมาพูดคุยกับตนเองด้วย ดังนั้นมองว่าแนวทางนี้ไม่ควรเกิดขึ้น





ส่วนประเด็นสูตรการคำนวณ ส.ส.นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่รู้ และเห็นว่ามีการถกเถียงกันมานานหลายเดือนแล้ว ทั้งสูตร 100 และหาร 500





ทั้งนี้หากมีการดึงเวลาให้ผ่านไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งครบ 180 วัน และยังไม่แล้วเสร็จ จะทำให้ต้องกลับไปใช้ร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากถึงวันที่ 15 ส.ค. แล้วร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ยังไม่แล้วเสร็จการพิจารณาจากสภาฯ ก็เท่ากับว่า ไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ก็ต้องกลับไปใช้ร่างเดิมของ กกต. ที่เสนอมาทุกมาตรา ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่เคยมีการหารือกัน เพราะคงจะเข้าใจว่าแล้วเสร็จทัน





ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอยู่อย่างน้อย คือวันอังคารที่ 2 และ 9 ส.ค. และหากหลังจาก 2 วันนี้แล้วดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังสามารถนัดเพิ่มในวันใดก็ได้ ก่อนถึงวันที่ 15 ส.ค. พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่กังวลในประเด็นนี้ และไม่มีแผนสำรอง เพราะหากไม่แล้วเสร็จจริงๆ ก็ถือเป็นความบกพร่องของสภาฯ ที่ต้องกลับไปใช้ร่างเดิมของ กกต. ในทุกมาตรา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่อง หาร 100 แต่ก็รวมถึงมาตราอื่นด้วย