เลือกตั้งและการเมือง

'โรม' จี้ยุบมูลนิธิป่ารอยต่อฯ 'บิ๊กป้อม' ลั่นให้ ป.ป.ช.สอบเลย ยันไม่รู้เรื่อง ถูกแฉแจกกล้วย

โดย petchpawee_k

26 ก.ค. 2565

6 views

เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการใช้มูลนิธิป่ารอยต่อทำกิจกรรมทางการเมืองเพื่อดูแลพรรคเล็กของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าหากดูจากคำสัมภาษณ์ของพรรคการเมืองขนาดเล็กที่เข้าไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในมูลธิป่ารอยต่อ ทั้งการประชุม พูดคุย วางแผน เป็นเรื่องจริงก็ไม่สามารถปล่อยให้มูลนิธินี้อยู่ต่อไปได้ 


เพราะชัดเจนแล้วว่ามูลนิธินี้ไม่ธรรมดา และมีการดำเนินกิจกรรมที่เข้าข่ายผิดวัตถุประสงค์ของการตั้งมูลนิธิที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ว่าจะไม่ดำเนินการกิจกรรมทางเมือง อีกทั้งมีความชัดเจนว่ามีการให้กล้วย ให้เงิน ให้ทอง เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยและมีเหตุให้สงสัยว่ามูลนิธิป่ารอยต่อ มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว


ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ถูกร้องหมิ่นประมาทจากมูลนิธิป่ารอยต่อ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแล้ว จะดำเนินการรวบรวมหลักฐาน และหารือกับทนายความเพื่อดำเนินการกับมูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งอาจจะใช้ช่องทางตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 131 ร้องไปยังอัยการให้ดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งสุดท้ายอาจจะนำไปสู่การยุบมูลนิธิป่ารอยต่อได้


ด้าน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้กล่าวถึงกระแสข่าว นักการเมืองพรรคเล็กบางคนเรียกรับผลประโยชน์ รายเดือน เดือนละ 100,000 บาท จากพรรคการเมืองใหญ่และมีการแฉสลิปโอนเงินออกมาอย่างต่อเนื่องว่า ขณะนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้สั่งติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้น หากพบว่าข้อเท็จจริงมีมูล ป.ป.ช. สามารถตั้งเรื่องขึ้นมาตรวจสอบได้ตามกระบวนการ


ตามกฎหมายของ ป.ป.ช. แล้ว ส.ส. หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถรับผลประโยชน์ที่คิดเป็นเงินเกิน 3,000 บาท ได้ ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 128 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


และหากพบว่าเป็นการรับเงินเพื่อแลกกับการลงมติใดๆ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเข้าข้อหารับสินบน ฐานความผิดต่อหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 149 ของประมวลกฎหมายอาญา ที่กำหนด  “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000บาท ถึง 400,000บาท หรือประหารชีวิต”


นอกจากนี้ยังมีความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง จนถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และจะถูกตรวจสอบฐานร่ำรวยผิดปกติด้วย หากไม่สามารถ ชี้แจงที่มาของเงินได้ เช่นเดียวกับผู้ที่ให้เงิน ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือไม่ หากผู้รับ เป็น ส.ส. เป็น เจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะมีความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วย

------------------------------------------------------


 'บิ๊กป้อม' ลั่นให้ป.ป.ช.สอบเลย ปมจัดตั้งป่ารอยต่อฯ โยงการเมือง บอกเหมือนปมนาฬิกาหรู สวน 'พิเชษฐ' แฉรับเงินในป่ารอยต่อฯ ปัดไม่รู้เรื่อง ย้อนรับกับใคร

 เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวถึงประเด็นที่ ป.ป.ช. เตรียมสอบวัตถุประสงค์การจัดตั้งมูลนิธิป่ารอยต่อที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดย พล.อ.ประวิตรระบุว่า ไม่มี ผมไม่รู้เรื่อง คุณไปถามคนที่ปล่อยข่าวสิ ป่ารอยต่อไม่ทำอะไรหนิ  ส่วนวัตถุประสงค์ป่ารอยต่อที่ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น พลเอกประวิตร ชี้แจงว่า ก็ไม่เกี่ยว ผมเกี่ยวคนเดียว ป่ารอยต่อไม่เกี่ยว ผมเป็นหัวหน้าพรรคไม่เกี่ยวได้ไง


ส่วนที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะแกนนำกลุ่ม 16 ที่ออกมาระบุว่ารับเงินในป่ารอยต่อนั้น พลเอกประวิตรย้อนถามว่ารับกับใคร ผมจะรู้ไหมและยืนยันไม่เคยเจอกับคุณพิเชษฐ ตนเจอในเรื่องการทำงานเท่านั่น


ส่วนที่ป.ป.ช. รับสอบในเรื่องดังกว่านั้น พลเอกประวิตรระบุว่า "อ๋อ รับไปเลย เหมือนเรื่องนาฬิกาผม รับไปเลยเรื่องจริงเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปผมไม่กลัวหรอก"



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9mA7_gqRF5o

คุณอาจสนใจ

Related News