'กรุงศรีวิไล' กราบขอโทษ 'บิ้กป้อม' โหวตสวนมติพรรค ลั่นหนุนนั่ง มท.1 ชี้เป็นผู้มากบารมี มีแต่คนรัก

วานนี้ (25 ก.ค. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการที่สมุทรปราการ 

ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร มาถึงที่ทำการเทศบาลบางเมือง นายกรุงศรีวิไล ได้ก้มกราบพลเอกประวิตรทันที่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร รับไหว้พร้อมระบุว่า “เดี๋ยวลุกไม่ขึ้น เรามันแก่พอกัน”

นายกรุงศรีวิไล ชี้แจงว่าได้กราบขอโทษ และยืนยันการโหวตนั้นทำตามหน้าที่ ส.ส.ตามระบบประชาธิปไตย และทำในสิ่งที่ถูกต้อง และอ้างอิงว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ดูแล ประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเลย

โดยนายกรุงศรีวิไล กล่าวเปิดใจอีกว่า สาเหตุที่กราบ พล.อ.ประวิตร เพราะอยากขอโทษที่ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ แต่ส่วนตัวต้องการให้ พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.มหาดไทย แทน โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.อนุพงษ์ เขียนโครงการอะไรไปก็ไม่ตอบรับ ไม่พิจารณางบประมาณ จนเป็นที่มาของการที่ 6 ส.ส.สมุทรปราการ ลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา

“พล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสมที่จะเป็น รมว.มหาดไทย เพราะเป็นผู้ที่มากบารมี ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายเห็นก็รู้สึกดี เป็นคนที่มีน้ำใจ ไม่ว่าพวกไหนรักทุกคน ให้ความเป็นธรรมทุกคน จึงคิดว่าแม่บ้านของประเทศ ต้องเป็นคนลักษณะนี้” นายกรุงศรีวิไล กล่าวย้ำ

จากนั้นได้มีการปิดห้องคุยกันประมาณ 10 นาที

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยภายหลังปิดห้องเคลียร์ใจกับส.ส.สมุทรปราการ พรรคพปชร. ยังติดใจสาเหตุของการโหวตคว่ำ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พล.อ.ประวิตร ส่ายหน้าพร้อมกล่าวว่า “ต้องแล้วแต่ที่เขาโหวตไป”

ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่โกรธใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องน้อยเนื้อต่ำใจเขา ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อถามย้ำว่า ได้เคลียร์ใจกันแล้วหรือไม่ และได้ขอโทษกันแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตร พยักหน้า ก่อนกล่าวว่า เขาขอโทษ เมื่อถามพล.อ.ประวิตร ว่าให้อภัยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องเอาเรื่องเข้ากรรมการบริหารพรรค

ขณะที่นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส. สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยหลังได้เคลียร์ใจพูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังโหวตคว่ำพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

โดยอธิบายเหตุผลที่การโหวตคว่ำ "พลเอกอนุพงษ์" อ้างว่าที่ผ่านมา 3 ปี จังหวัดสมุทรปราการไม่ได้รับการประสานดูแลเรื่องท้องถิ่น โดยเฉพาะการเสนอโครงการผ่านกระทรวงมหาดไทยแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ และรับแรงเสียดทานจากประชาชน ยืนยันการตัดสินใจโหวต อยู่บนพื้นฐานการเป็นผู้แทนราษฎร และความถูกต้องเป็นการแสดงออกทางการเมืองภายใต้ครรลองระบบประชาธิปไตย และถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว

และได้ชี้แจงเหตุผลการโหวตคว่ำนายสุชาติว่า เป็นเพราะเรื่องของปัญหาการทำการเมืองท้องถิ่นทับซ้อนพื้นที่กัน และยืนยัน ส.ส. สมุทรปราการก้าวหน้าทำงานครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด และสมุทรปราการรักกันดีไม่มีแตกแยก ก่อนจะแนะว่านายสุชาติมีพื้นที่ทางการเมืองของตัวเองที่จังหวัดชลบุรีซึ่งก็มีปัญหาหนักให้ไปดูแลพื้นที่ตัวเอง

ส่วนในวันข้างหน้าผู้ใหญ่จะว่าอย่างไรก็พร้อมปฎิบัติตาม และจะไม่มีแรงความกดใดดันให้ผู้ใหญ่ยกโทษให้ และนี่จะเป็นการแสดงออกถึงการ ทางการเมืองครั้งสุดท้าย ทำได้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในครั้งหน้า ส่วนการสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่จะพิจารณา โดยย้ำว่า ส.ส. สมุทรปราการทำงานเป็นทีม ถ้าสมุทรปราการก้าวหน้าไปทางไหนก็พร้อมที่จะไปด้วย

นางนันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ.สมุทรปราการ กล่าวถึงอนาคตกลุ่มบ้านใหญ่ปากน้ำ กับพรรค พปชร.จะเป็นอย่างไร ว่า กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ทำงานการเมืองท้องถิ่น ซึ่งก็ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ได้เข้าไปเคลียร์ใจกับพล.อ.ประวิตร พร้อม ส.ส.ปากน้ำ ก็ได้สะท้อนปัญหาถึงเรื่องน้ำ ที่มาจากน้ำเหนือหนุนเข้ามา รวมถึงน้ำที่เป็นมลพิษ ซึ่งเป็นปัญหามาอย่างยาวนาน และได้รับความเมตตาจากท่าน อย่างน้อยก็ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ เช่นการจัดการปัญหาและพัฒนาคูคลอง

ทั้งนี้ นางนันทิดา ยืนยันว่าในห้องหารือ ไม่ได้มีการเคลียร์ถึงความสัมพันธ์ของกลุ่ม กับพล.อ.ประวิตร เพียงแต่เรากราบขอบพระคุณท่าน ที่เมตตาต่อสมุทรปราการ

ส่วนที่กลุ่ม ส.ส. ปากน้ำ ระบุว่ามีใบสั่งจากผู้ใหญ่ ไม่ไห้โหวตไว้วางใจ รมว.มหาดไทย นางนันทิดา บอกว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะทำงานในส่วนของ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ส่วนที่คนมองว่าผู้ใหญ่ คือ นายชนสวัสดิ์ อัศวเหม นางนันทิดา หัวเราะ พร้อมระบุว่า กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าของเราเป็นกลุ่มท้องถิ่น ไม่ได้ขึ้นกับพรรคการเมือง

นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณี 6 ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ของพรรคพลังประชารัฐ ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ว่า มาจากเหตุผลบางอย่างของผู้ใหญ่ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ และหลังจากโหวต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค ไม่ได้พูดคุยหรือเรียกส.ส.กลุ่มเข้าไปหาหรือตำหนิ อาจจะได้คุยกันวันนี้ที่พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ โดยหัวหน้าพรรคเป็นบุคคลที่น่ารัก และพวกตนเคารพนับถือ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีดังกล่าวอาจถูกมองว่า ส.ส.ในพรรคไม่เชื่อฟังพล.อ.ประวิตร นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า ส.ส.ทั้งกลุ่มเคารพหัวหน้าพรรค แต่ไม่ขอก้าวล่วงความคิดผู้ใหญ่ในกลุ่มและไม่สามารถตอบแทนได้ ยืนยันที่เราทำไปทั้งหมดเพราะอยากให้ จ.สมุทรปราการ พัฒนาไปในทางที่ดี โดยไม่มีการเรียกร้องเรื่องตำแหน่ง และไม่มีความน้อยใจอะไร

“กรณีโหวตดังกล่าว ไม่มีปัญหาภายในพรรค เพราะในกลุ่มไลน์ ส.ส.มีร้อยกว่าคน ไม่มีปัญหาเลย และยังโทร.มาให้กำลังใจอีกด้วย มีแค่ 3-4 คนเท่านั้นที่มีปัญหา” นายอัครวัฒน์ กล่าว


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวกับประชาชนระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการที่สมุทรปราการ ว่า ตนยินดีที่ได้มาตรวจราชการและพบปะพี่น้องประชาชนสมุทรปราการ เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลเคยมอบหมายไปครั้งก่อน ซึ่งตนขอชื่นชมผู้ว่าฯ นายกฯ อบจ. และประชาชนชาวสมุทรปราการ ที่ร่วมกันทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเห็นได้ชัดแม้ฝนตก 3 วัน 3 คืนก็สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยมาติดตามทันทีพร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งเห็นได้ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ห่วงใยชาวสมุทรปราการอย่างยิ่ง ก็ขอให้ทุกคนเห็นใจนายกฯ ในการทำงานด้วย เพราะนายกฯ ทำงานหนักเพื่อคนไทยอยู่ดีกินดีขึ้น

ในช่วงท้าย พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาล รัฐมนตรีทุกคน โดยเฉพาะในพื้นที่สมุทรปราการมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ร่วมมือร่วมใจกับรัฐบาลในการทำงานทุกอย่าง พร้อมขอขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรค พปชร. ถึง 6 คน ซึ่งถึงแม้ได้ ส.ส.มากแต่ยังไม่ได้รัฐมนตรี ไม่ต้องห่วงครับ ยังไงก็ต้องได้อะครับ ยังไงก็ต้องได้ เพราะว่าทำงานให้รัฐบาลก็ต้องได้รับการพิจารณานะครับ หลังจากปรับ ครม.เมื่อไหร่ก็ต้องได้จะได้เป็น