'จิรัฏฐ์' งัดเอกสารแฉซื้อไอแพดตัวท็อป ใช้สเปกสูงเกินจำเป็น แซะแรง "เหมือนไปปากซอยแต่ใช้ลัมโบกินี่"

วานนี้ (14 ก.ค. 65) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ยอมรับให้ข้อมูลผิดเรื่องการจัดหาจัด iPAD Pro M1 ตัวท็อปพร้อมอุปกรณ์เสริมให้กับข้าราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ สลน. 130 เครื่อง เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ตามที่โฆษกรัฐบาลชี้แจงจริง แต่ที่ผิดคือผิดจากหน่วยงานสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ สลน.เป็นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค.

นายจิรัฏฐ์ กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณโฆษกรัฐบาลที่ออกมาตอบโต้ ตนจึงตรวจสอบไปทั้งสองหน่วยงานจึงทำให้รู้ว่า สลน. เองก็มีการสั่งซื้อ จัดซื้อ iPad เช่นกันจำนวน 6 เครื่องเหมือนกัน และมีความไม่ชอบมาพากลของโครงการด้วย

ซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดในเอกสารของ สลค.พบว่าไม่ใช่แค่ 130 เครื่องแต่เป็น 210 เครื่อง โดยมีการยื่นเอกสารยื่นมา 2 ชุด ชุดแรก 130 เครื่อง ชุดที่ 2 เป็น 210 เครื่อง จึงไม่มั่นใจว่าต้องใช้เอกสารชุดใด แต่ทั้ง 2 ชุดมีการล็อกสเปคเป็น iPad ตัวท็อปไว้อย่างชัดเจน แต่ในเอกสารกลับระบุไว้เป็นแทปเล็ต

ซึ่งหากพิจารณาจากสเปคกับราคาแล้ว เป็นของ iPad ซึ่งเป็นการจัดซื้อสเปคที่สูงเกินความจำเป็นกับการนำไปใช้งาน เพราะมองว่างานหลักแค่นำมาใช้เขียนสคริปต์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้นายกฯ อีกทั้งยังพบว่ามีการนำ iPad เหล่านี้ไปให้ข้าราชการการเมืองใช้ นอกจากราคาจะสูงเกินจริงแล้วยังใช้ของไม่ถูกกับงาน โดยเปรียบเหมือนจะไปปากซอยแต่ใช้รถลัมโบกินี่

นายจิรัฏฐ์ เชื่อมั่นว่าก่อนที่หน่วยงานในสำนักนายกรัฐมนตรีจะทำเรื่องของบประมาณ นายกรัฐมนตรีจะต้องทราบเรื่องก่อนแน่นอน เพราะถ้านายกรัฐมนตรีไม่อนุญาตหน่วยงานในสังกัดก็คงไม่กล้าของบประมาณ จึงมองว่าการจัดซื้อ iPad ในสเปคที่สูงเป็นการตบรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย

นายจิรัฏฐ์ ยังกล่าวชื่นชมโฆษกรัฐบาลในการออกมาตอบโต้ชี้แจงเรื่องนี้ได้เร็ว ด้วยความมั่นใจ แต่ควรที่จะมีการตรวจสอบรายละเอียดจากทุกหน่วยงานในสำนักนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะมีการของบประมาณในลักษณะเดียวกันในหลายหน่วยงานของสำนักนายกฯ ซึ่งมีความซ้ำซ้อนและแต่ละหน่วยงานที่ของบประมาณก็ไม่มีรายละเอียดเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากอนุกรรมาธิการไปแล้ว แต่ตนเองได้ตั้งข้อสังเกตไว้เพื่อขอปรับลดงบประมาณในชั้นกรรมาธิการใหญ่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของกรรมาธิการจะเห็นด้วยกับข้อสังเกตของตนเองหรือไม่

นายจิรัฏฐ์ เปิดเผยด้วยว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของ 140 หน่วยงานจากทุกกระทรวงพบว่า มีการเสนอใบเสนอราคาจัดซื้อจัดจ้างปลอมให้กรรมาธิการ คือ ไม่มีลายเซ็นวันที่ผิด หรือปลอมแปลงลายเซ็นก็มี แล้วเอามาเป็นราคากลางในการของบประมาณ ซึ่งนั่นหมายความว่ามีโอกาสที่จะทุจริตและตัวเลขไม่ตรงตามความเป็นจริง ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/2k1qZBfA8Ps