ทักษิณ ชี้ ไทยยังไม่พร้อมเป็นเจ้าภาพ "เอเปค"

หลังจากที่กลุ่ม “CARE คิด เคลื่อน ไทย” ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก และคลับเฮ้าส์ โดยมีการพูดคุยกับ โทนี วูดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ ผู้นำต้องทำงานไม่ใช่ผลาญแต่ภาษี


โดยระหว่างการไลฟ์สด นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ยังมองไม่ออกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากจะอยู่เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค เพื่ออะไร หรือต้องการที่จะแข่งกัน สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานจัดการประชุมเอเปค


โดย นายทักษิณ บอกด้วยว่า อย่าคิดแข่ง เพราะไม่เคยแข่ง และไม่ต้องการให้ใครมาแข่ง ให้ตนซูฮกก็ได้ แต่อย่าเป็นเลยเจ้าภาพเอเปค เพราะไทยไม่มีพร้อมมากพอกับภาวะการประชุมเอเปค ซึ่งมีภาวะแทรกซ้อนของการเมืองระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศสมาชิกสูงมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องคล่องตัว และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วยกัน ซึ่งตนกลัวรับมือไม่อยู่ เพราะกระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงกระทรวงการคลังของไทยไม่แข็งแรง ยิ่งนายกรัฐมนตรียิ่งไปกันใหญ่ โดยเฉพาะการประชุมครั้งนี้มีความไม่ปกติ จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งอาจขยายความขัดแย้งไปยังเวทีการประชุมอื่น


นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขาดความมั่นใจเรื่องการต่างประเทศ อาจจะเป็นเพราะเรื่องภาษา เพราะกระทรวง หรือทั้งสองอย่าง ซึ่งเรื่องการต่างประเทศจะแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของประเทศ ฉะนั้นเรื่องนี้จึงมีความสำคัญมาก


ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้ประสานงานกลุ่มแคร์ กล่าวว่า การจัดการประชุมเอเปค เป็นเรื่องที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างมาก แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า การประชุมเอเปคที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมทั้งในแง่ของเนื้อหาสาระ พิธีการต่างๆ มีการลงในรายละเอียดเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น หากไม่มีการเตรียมการอย่างดี อาจจะเป็นการจัดการประชุมเอเปคครั้งหนึ่งที่อาจจะเป็นความล้มเหลว ซึ่งน่าเป็นกังวลมาก เพราะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ


นายทักษิณ กล่าวต่อว่า การทำงานต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีการมอบหมายงาน แต่ต้องมีผลตอบรับกลับมาว่าเป็นอย่างไร และต้องแก้ไขอย่างไร หรือมีการบ้าน หากแค่เซ็นเอกสาร เหนื่อยแล้วกลับบ้าน แค่นั้นไม่พอ อย่าลืมว่า ท่านเป็นข้าราชการ ที่เป็นนักใช้งบประมาณ ไม่ใช่นักหาเงินใส่งบประมาณ ไม่ได้คิดว่าในฐานะผู้นำจะหาเงินเข้ามาใส่ในงบประมาณอย่างไร ไม่ใช่กู้ เพราะกู้อย่างเดียวประเทศมีแต่จะพัง


ปัจจุบันแม้เราจะมีเสถียรภาพด้านเงินสำรองระหว่างประเทศก็ตาม แต่เงินสำรองเหล่านี้คิดเป็น 4.4 เท่าของหนี้ระยะสั้น ซึ่งอย่าลืมว่า เงินจะไหลออกไปเรื่อยๆ เพราะต่างประเทศมีปัญหา ดังนั้น แม้ต่างประเทศที่มาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เรากี่ล้านล้านบาท ก็จะทยอยออกไปเรื่อยๆ จำไว้ว่า เงินจะอยู่ในที่ที่ทำเงิน หากไม่มีที่ทำเงินก็ต้องหนีไปหาที่ใหม่


นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็น และยังไม่ได้คิดว่ารัฐบาลประกาศยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ น้ำมันแพงจากภาวะสงคราม ซึ่งจะยืดเยื้อนี้อย่างไร จู่ๆ มอบหมายให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปคิดวางแผนเพื่อจะร่วมรบกับยูเครนและรัสเซียอย่างไรหรือ ซึ่งนั่นไม่ใช่การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ควรต้องเป็นนักเศษฐศาสตร์ หากให้ทหารคิดเรื่องนี้ ส่วนตัวยังมองไม่ออกเลยว่า มีทหารคนไหนเก่งด้านเศรษศาสตร์ ดังนั้นแบบนี้เดินต่อไปไม่ได้ เพราะที่จริงแล้ว สำหรับทหารยิ่งโตยิ่งฉลาดน้อยลง


หลังจากนั้นนายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า ขออภัยที่พูดคลับเฮ้าส์เมื่อคืนนี้ทำให้สื่อบางสำนักเข้าใจว่าตนเสนอให้รัฐบาลถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพเอเปค จริงๆ แล้วตนหมายถึงรัฐบาลนี้ไม่มีความพร้อมที่จะทำหน้าที่ประธานเอเปค เพราะครั้งนี้จะมีความซับซ้อน ยากกว่าทุกครั้ง


พร้อมระบุด้วยว่าไม่ต้องกังวลที่นายกฯ จะอยู่เป็นประธาน ถ้าหากจะต้องมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก็น่าจะได้ทีมที่จะเป็นเจ้าภาพได้ดีกว่านี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากกว่า