'สุชาติ' เมินกระแส 'ชัชชาติฟีเวอร์' ลั่น 'บิ๊กตู่' แก้ปัญหาหลายอย่าง พูดทั้งวันก็ไม่หมด

วานนี้ (4 ก.ค.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมพรรค ถึงกระแสชัชชาติฟีเวอร์จะส่งผลสะเทือนถึงพรรคพปชร.หรือไม่

โดย นายสุชาติ กล่าวว่า กระแสดังกล่าวมองว่าเป็นบางพื้นที่ ถ้าเป็นในกทม.ก็ต้องยอมรับเพราะเขาทำพื้นที่ในกทม.มาก่อน แต่ถ้าไปที่จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของตน ก็คิดว่าตนฟีเวอร์ หรือถ้าไปภาคอีสาน หรือไปจ.ตรัง ที่เป็นบ้านของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ต้องฟีเวอร์กว่า ขึ้นอยู่กับว่าเป็นพื้นที่ของใคร เป็นที่ที่ชาวบ้านจับต้องได้ และทำมวลชน หรือมีการประชาสัมพันธ์ อยู่ในพื้นที่นั้นๆ มาก่อน

ทั้งนี้ยอมรับว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แสดงวิสัยทัศน์ที่ชาญฉลาดอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา ในอดีตเราก็เคยมีคนที่ฟีเว่อร์แบบนี้หลายคน จึงขอให้ดูกันที่ผลลัพธ์จะดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสวิจารณ์เปรียบเทียบการทำงาน 1 เดือนของผู้ว่าฯกทม.กับการทำงานของผู้นำประเทศ ค่อนข้างมาก นายสุชาติ กล่าวว่า ถามว่า 1 เดือนที่ผ่านมา นายชัชชาติทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของเราทำอะไรบ้างต้องดูตรงนี้ ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ใครจะเข้ามาควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีขนาดนี้

ต้องมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานมามาก ทำมาหลายอย่างแก้ปัญหาทุกมิติ ให้พูดทั้งวันก็พูดไม่หมด ฉะนั้นทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องออกมาเพื่อช่วยกันพูดถึงผลงานที่ได้ทำมาแล้ว เช่น ทำให้ส่งออกสูงสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่ประเทศอื่นเจ๊งกันหมด อย่างนี้ทำไมไม่ถามว่า นายกฯทำได้อย่างไร ต้องบอกว่านายกฯเก่งมาก เก่งที่สุดในโลก ทำไมสื่อมวลชนไม่ถามอย่างนี้

การออกไปตรวจพื้นที่ไม่ยาก แค่นั่งรถไปตรวจก็ได้ หรือออกไปกินข้าวกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยก็ไม่ยาก แต่ถามว่าทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ขอให้กำลังใจให้แก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ได้ก่อน และชื่นชมเรื่องนี้ที่เขากล้าตัดสินใจ กล้าแก้ปัญหา ถือเป็นความเด็ดเดี่ยว และหากทำได้จะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง

การเลือกผู้นำที่เป็นผู้ว่าฯหรือจะเลือกผู้นำของทั้งประเทศ เพราะผู้นำเป็นผู้คิดนโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มองไปข้างหน้า ไม่ได้เป็นแค่ผู้นำ ที่ประชาชนมองว่าทุ่มเทมาก ฝนตกน้ำท่วมลงไปเปิดท่อ มันไม่ใช่ ถ้าเป็นผมจะบอกว่า น้ำห้ามท่วม ขยะตัน จะให้เวลาภายในหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นจะลงไปดู อย่างนี้เรียกว่าเป็นนโยบายที่ผู้นำจะต้องทำ จึงขอให้ทุกคนเปลี่ยนความคิด ย้ำว่าเราไม่ได้ไปแตะต้อง เพราะไปแตะนิดนิดก็มีปัญหา แต่กำลังบอกว่าขอให้กำลังใจในการทำงาน

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงการจัดเวทีพบประชาชนของพรรคพลังประชารัฐ ครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ว่า กิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่ 17.00 น. ถึงประมาณ 20.00 น. นอกจาก ส.ส. ในพื้นที่ภาคตะวันออก และ รัฐมนตรีของพรรค ไฮไลท์สำคัญ อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะขึ้นเวที ปิดท้าย ในเวลา 20.00 น. โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งเนื้อหาหลักจะสรุปผลงานของรัฐบาลในช่วง 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เช่นการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่า โครงการนี้เกิดจากรัฐบาลใด และประชาชนได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง รวมถึงโครงการสำคัญอื่นๆ อาทิ สวัสดิการแห่งรัฐ และการแก้ปัญหาโควิด “ทำไมจึงรักษาการจ้างงานได้ ทำไมเราจึงควบคุมโควิดในอุตสาหกรรมได้”

นายสุชาติ กล่าวว่า เวทีโรดโชว์ดังกล่าว จะมีเสียงสะท้อนของประชาชน ที่เชื่อมั่นในตัวของ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร ซึ่งส่วนตัว ยังมั่นใจว่า

“พลังประชารัฐยังเป็นพรรคอันดับหนึ่งของภาคตะวันออก ดูจากส.ส.ที่อยู่ในอันดับต้นๆ และเรายังครองแชมป์ตรงจุดนี้ เพราะครั้งที่แล้วเป็นจุดแข็งที่สุด และจังหวัดชลบุรี ต้องบอกเป็นจังหวัดที่โชคดีมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 2 ท่าน มีผม กับรัฐมนตรีอิทธิพล คุณปลื้ม”

สำหรับเวทีพบประชาชนของพรรคครั้งที่ 2 นั้น นายสุชชาติ กล่าวว่า จะจัดขึ้นที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมี ส.ส.ในพื้นที่ 3 คน ขณะที่เวทีอื่นๆ ก็จะไปพื้นที่ที่เรามีฐานมวลชนที่ชื่นชอบพรรค ส่วนเรื่องของผลโพลนั้น มองว่าเป็นเสียงสะท้อนที่ทำให้เราขยันขึ้นได้ แต่ถ้าเห็นโพลแล้ว เราไม่สู้ หรือหมดกำลังใจ ก็เหมือนเราสอบตกแล้วสอบตกอีก

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qBm5brlZA3o