เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ เปรียบ ประเทศเป็นรถยนต์ ขับเคลื่อน 70 ล้านคน จะเป็นตายก็ต้องช่วยกันเข็น
โดย kanyapak_w
29 มิ.ย. 2565
211 views
(29 มิ.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอกอนุพงษ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดงาน FTI Expo 2022 ภายใต้แนวคิด Shaping Future Industries for Stronger Thailand ซึ่งเป็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศในมิติต่างๆทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมผลักดัน Soft Power ของไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์นำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนจำได้ตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ วันนี้กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าหลายสาขาส่งผลทำให้การพัฒนานวัตกรรมมีความจำเป็นมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราทุกคนโดยเฉพาะเรื่องการผลิตของทุกประเทศไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ที่จะต้องรับมือกับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่าเป็นสายลมเบาๆ
หากอยู่ไปอีกนานๆ ก็คงเป็นพายุ นี่คือต้นๆ พายุ เป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราต้องคุยกันให้เข้าใจทั้ง 2 ซีกทั้งภาครัฐ และสมาคมหอการค้า จะต้องจับมือไปด้วยกันไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ นโยบายของตนที่ผ่านมาพยายามที่จะขับเคลื่อน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ที่จะ เปิดการพบปะพูดคุยเจรจาระดับผู้นำประเทศผ่านสถานทูต เพื่อให้เกิดการเจรจาระหว่างการปลดล็อคหาวิธีการในการที่จะเจอกันให้ได้
ซึ่งทุกคนก็คงทราบว่าอะไรปรับได้หรือเปลี่ยนได้ หากเปรียบเทียบภาพที่ว่าเมื่อสักครู่ ตนก็เปรียบกับรัฐบาล เปรียบเทียบประเทศไทยเป็นรถยนต์คันหนึ่งพาคน 70 ล้านคนไปข้างหน้า จะรถอะไรก็ไม่รู้เป็นรถคันใหญ่ๆ คันหนึ่งที่จะขับเคลื่อนคนทุกคนในประเทศไทย ทั้งคนต่างประเทศและคนไทย ที่จะขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าในเวทีโลก ทำให้รถยนต์เครื่องนี้ไม่ติดขัด ทำให้ประชาชนที่อยู่บนรถนั้นสะดวกสบายในการเดินทาง ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกี่ยวกับเครื่องจักรเครื่องยนต์เทคโนโลยีพลังงานเกี่ยวกับคนในรถ ซึ่งมีความหลากหลาย ต่างอาชีพ ต่างวัย ต่างขีดความสามารถ
แต่จะทำอย่างไรให้รถคันนี้สามารถวิ่งได้ สิ่งแรกที่ทำได้ในขณะนี้คือเตรียมรถให้ดี พาคนขึ้นรถให้ได้ คนขึ้นรถรับแรกคือพวกเราเพื่อจะไปดูว่ารถคันนี้จะไปข้างหน้าไหวหรือไม่ แล้วพร้อมเมื่อไหร่ให้เอาคนขึ้นมา และเอาคนที่ทำรถคันนี้ไปขึ้นรถคันอื่น สร้างรถหลายๆคันออกมา ตนคิดว่าน่าจะต้องคิดแบบนี้
สิ่งสำคัญที่สุดคือสุขภาพ เมื่อสุขภาพดีก็ดำรงชีวิตอยู่ได้ แน่นอนว่าหากประชาชนลำบากนายกรัฐมนตรี เจ็บปวดเห็นใจ เห็นได้ว่าอะไรทำได้ตนก็จะทำให้ได้มากที่สุดอย่างระมัดระวัง เพราะอะไรยัง ไม่ใช่ประเทศไทยนึกจะทำอะไรก็ทำได้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศสำคัญประเทศหนึ่งในโลก ที่หลายประเทศพุ่งเป้าให้ความสำคัญในยังประเทศไทย เป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการลงทุน อยู่อาศัยทำงาน เพราะเราดูแลเขาให้ดีที่สุด แต่คนไทยหลายส่วนอาจจะมีความไม่สบายใจ เข้ามาเพื่อทำให้เกิดประโยชน์ให้กับประเทศไทย เอาเทคโนโลยีมาใส่เราจนมองว่าคุ้มค่าอย่าห่วง รัฐบาลมีมาตรการที่รัฐคุมอยู่แล้ว
ส่วนราคาพลังงาน ค่าขนส่งแพงขึ้น ก็น้ำมันมันแพง น้ำมันมาจากที่ไหน ซื้อเขามาใช่หรือไม่ น้ำมันทั้งหมดไม่ได้ซื้อตรงประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ต้องผ่านกลไกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะของใคร ทั้งตลาดเบนซ์ ตลาดโอเปก ทั้งหมดมีระเบียบวิเคราะห์บังคับ ทุกอย่างมีมาตรฐานกลาง ราคาพลังงานสูงขึ้นค่าขนส่งแพงขึ้นต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น มีปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินการการเงินการคลังของต่างประเทศ
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ อยู่ในระดับ BBB+ แม้จะมีการกู้เงินมาใช้บ้าง แต่ก็ยังคงแข็งแรงอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากจะกู้ ไม่จำเป็นแล้วใครจะอยากกู้ ตนขอถาม ถ้าไม่กู้แล้วจะเอา GDP มาจากไหน เพิ่มรายรับมาจากครัวเรือนได้อย่างไร
วันนี้โลกเปลี่ยนเป็น 3 ขั้ว แต่ตนคงไม่ต้องกล่าวว่ามีขั้วอะไรบ้าง ยืนยันว่าไทยได้รับการยอมรับจากหลายประเทศในเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และรัฐบาลต้องดูแลทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมกันนี้ยังแซวนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพลังงาน เดินไปไหน นั่งไม่ติด ไฟจะไหม้อยู่แล้ว แต่ไม่ไหม้ จุดไม่ติด เพราะน้ำมันน้อย ส่วนเรื่องราคาน้ำมัน อยากลด พูดจนกางเกงหลวมแล้ว
ซึ่งทุกเรื่องจะเกิดมูลค่าได้ ด้วยการสร้างสตอรี่ ไม่ใช่สตรอเบอรี่ สิ่งสำคัญคือความรัก ความสามัคคีของคนไทย ตนไม่ต้องการทะเลาะกับใครอีกแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังต้องการให้ ดินแดนอาเซียนเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข มีเสถียรภาพ ไม่มีสงคราม เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารของโลก ใครจะเป็นอะไรก็ว่าไปเถอะ แต่อย่างไรเราก็ไม่อดตาย เพราะฉะนั้นเราจะต้องดูแลให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแต่ใครจะขัดแย้งก็ว่ากันไป เราต้องรักษาตรงนี้ไม่ให้ได้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ที่สาธารณะตามความสมัครใจว่า ต้องระมัดระวังตัวเองทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสิทธิส่วนบุคคลหากจะไปออกกฎหมายบังคับอะไรคงไม่ไหว หากไม่อยากเป็นก็ใส่หน้ากากเวลาอยู่ที่คนเยอะๆ เพราะเป็นเรื่องของความสมัครใจ อย่าไปกลัวว่าคนจะบูลลี่ว่าใส่หน้ากากจะทยอยเปิดตามลำดับเมื่อสถานการณ์มีปัญหาก็เบรกซะหน่อย เพราะใครเพราะผมหรอ เพราะพวกเราทุกคนที่ช่วยกันเพราะประชาชนทุกคน ช่วยๆ กันไม่มีอะไรที่ทำสำเร็จได้ที่คนคนเดียวหรือฝ่ายเดียว หรือหน่วยงานเดียวไม่มีทาง เพราะนี่คือของการทำงานร่วมกันด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด แล้วจะฟังใคร ต้องเอามาให้ได้เป็นคำพูดเดียว ตนไม่อยากไปลงในรายละเอียด ทั้งหมดคือแนวทางและการที่รัฐบาลทำมาโดยตลอด ต้องปรับเปลี่ยนปรับแก้ทั้งในสภาและนอกสภาและยังก็ดีขึ้นอะไรที่สามารถทำได้ในเชิงบริหารตนก็ทำให้ทั้งหมด
นายกรัฐมนตรียังขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่ารัฐบาลพูดอะไรทำไม่ได้ ก่อนที่จะกล่าวติดตลกว่าตนพูดสู้ประธานหอการค้าไม่ได้อยู่แล้ว พูดไม่ดีก็จะโดนโห่ สิ่งสำคัญคือถ้าร่วมมือร่วมใจร่วมใจกล่าวทุกวัน เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะเป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น พร้อมกับกล่าวชมคนไทยไม่ด้อยกว่าคนอื่น ไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักความสามัคคี เสถียรภาพ เราทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ตนไม่ต้องการทะเลาะกับใคร
ตนทำให้ทุกคนทำให้ทุกจังหวัด ตนลงแผนงานโครงการให้ทุกจังหวัดแม้ว่าจะรักตนหรือไม่ แต่ตนก็ทำให้เขาเขาเป็นหน้าที่ของตน เลิกกันเสียทีไม่เกิดอะไรขึ้น จะไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยสิ่งที่ทำมาแต่สูญเปล่าไปเฉยๆ เราต้องการเห็นประชาชนก้าวหน้าประชาชนอยู่ดียินดีแข่งขันกับประเทศอื่นได้เราต้องจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน
ต้องนั่งรถคันเดียวกันไป จะเป็นจะตายก็ต้องช่วยกันเข็น ส่วนใครจะนำก็ต้องว่าไป แต่สิ่งที่ทำวันนี้ต้องต่อเนื่อง ถ้าบอกว่าไอ้นุ่นก็ไม่ดีไอ้นี่ไม่ใช่ก็ไม่ถูกตนไม่ได้ว่าใคร ว่าตัวเอง ตนชอบพูดหาเรื่องแบบนี้แหละ แต่พูดด้วยหัวใจ หัวใจของตนเพื่อประชาชน
แท็กที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี ,เศรษฐกิจ ,เศรษฐกิจไทย