นายกฯ ชี้ ต้องดูแลค่าพลังงาน ไม่ให้กระทบประชาชนมากเกิน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติว่าที่ประชุม มีการพิจารณาเรื่องพลังงานในภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะปัญหาน้ำมันแพง รวมถึงปรับรูปแบบการใช้พลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการใช้พลังงานถ่านหินลิกไนต์ เพื่อนำมาใช้ทดแทนค่าแก๊สและค่าน้ำมันที่มีแพง


โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ทุกคนทราบปัญหาพลังงานดีอยู่แล้วว่าเกิดผลกระทบทั่วโลก ดังนั้น จะต้องศึกษาปัจจัยพลังงานที่แพงขึ้น ต้องทำความเข้าใจว่ามาจากปัจจัยภายนอกหรือภายในประเทศ เกิดขึ้นทั่วโลกหรือไม่หรือแค่ไทยประเทศเดียว ยืนยันทุกประเทศที่มีการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้รับผลกระทบทั้งหมด ซึ่งของไทยมีพลังงานในประเทศทั้งทางบก ทางทะเล รัฐบาลพยายามหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติมเพื่อทดแทน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะต้องแก้ปัญหาให้ได้ โดย

1.จะต้องดูแลความมั่นคง เสถียรภาพพลังงานไม่ให้ขาดแคลน ให้การขยายตัวเศรษฐกิจไปได้

2.ต้องดูแลค่าราคาพลังงานไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนมากเกินไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้มที่มีผลกระทบค่าครองชีพประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งทุกวันนี้ราคาน้ำมันไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ยังราคาถูกอยู่ลำดับ 7-8 จาก 10 ประเทศในอาเซียน

3.ต้องดูแลกลุ่มเปราะบางผ่านมาตรการต่างๆ ของรัฐ เช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรายกิจกรรมผู้ประกอบการ และจะต้องให้เกิดความสมดุลในการใช้เม็ดเงิน ประคับประคองพลังงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพการเงินการคลัง ให้เติบโตได้ในอนาคต ซึ่งถ้าเป็นภาระมากเกินไปวันหน้าจะย้อนกลับมาที่ประชาชน


ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานที่ออกมา ถือว่ามาถูกทางแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ และเมื่อถามย้ำถึงกรณีโฮปเวลล์ทวงเงินค่าโง่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ากระทรวงคมนาคมชี้แจงไปแล้วเมื่อวานนี้


ขณะเดียวกันเมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยได้มีการเสนอชื่อปรับครม.แทนนางกรกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบและเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที