เลือกตั้งและการเมือง

3 ป.สยบกระแสข่าว ร่วมเฟรมเปิดงานนอกทำเนียบ "บิ๊กตู่" รับปรับตัวยิ้มแม้เครียด

โดย taweelap_b

10 มิ.ย. 2565

37 views

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 65 พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอกประวิตร​ วงษ์​สุวรรณ​ รอง​นายกรัฐ​มนตรี​ พลเอกอนุพงษ์​ เผ่า​จินดา​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ นายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมพิธีเปิดโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างโอกาสด้านอาชีพ สร้างสรรค์บทบาทสตรี สู่ความเข้มแข็งในชุมชน


โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง ทั้ง 3 ป. ได้เดินทักทายผู้มาร่วมงานอย่างอารมณ์ดี​ ยิ้มแย้ม​แจ่มใส​ และเป็นกันเอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทำมือตบที่หน้าอก พร้อมชูมือ "ไอเลิฟยู" ให้กับกลุ่มสตรีที่มาร่วม​งาน​ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ในการร่วมงานวันเดียวกันนี้​ ทั้ง 3 ป.​ มาร่วมงานอย่างพร้อมเพียงกันท่ามกลางกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า นายกรัฐมนตรี จะมานั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทนพลเอกประวิตร จนพลเอกประวิตร ​​ต้องออกมาปฏิเสธข่าวและยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง​ 2 ป. ​โดยกล่าวย้ำในที่ประชุมแกนนำพรรค ว่า​รักกันดีกับพลเอกประยุทธ์​ อย่าให้ใครมาเสี้ยมให้แตกกันไม่มีทาง


ทั้งนี้ นายกรัฐ​มนตรี​ กล่าวว่า​ ขออนุญาตถอดหน้ากาก จะได้เห็นหน้ากันชัด ๆ​ พร้อมกับกล่าวว่า​ สตรีถือว่ามีบทบาทการขับเคลื่อนร่วมกันในประเทศชาติของเรา มีบทบาทสำคัญในการดูแลครอบครัวจะเห็นได้ว่าสตรีมีบทบาทสำคัญ ในหลากหลายวงการทั้งในด้านสังคมเศรษฐกิจการเมือง เพราะฉะนั้นแสดงให้เห็นว่าสังคมได้ให้โอกาสสตรีในการเข้าถึงและยอมรับความสามารถสตรีมากยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่าสตรีเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จในหลาย ๆ เรื่อง อยู่ทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า วันนี้เท่าเทียมกันอยู่แล้ว ตนต้องกล่าวชื่นชมบทบาทสตรีในฐานะที่ตนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงมีภารกิจมาก ภารกิจที่สำคัญยิ่งคือ​หน้าที่ในการเป็นภรรยา หน้าที่ในการเป็นแม่ของลูก และการประกอบการ การหารายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัว


เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจและเห็นใจบรรดาสตรีที่รับบทบาทหนัก ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าไม่ใช่เบื้องหน้าเบื้องหลังต้องไปด้วยกันร่วมมือกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่เราทำกันได้อยู่แล้วตั้งแต่เรื่องครอบครัวชุมชน หากให้เกียรติซึ่งกันและกันเราไปได้แน่นอน เห็นทุกคนแต่งตัวสวย ๆ มาก็ชื่นใจนาน ๆจะได้พบคน พร้อม ๆ กันทุกภาคทุกจังหวัดในวันนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามที่จะสร้างโอกาสให้สตรีได้มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในทุกด้าน โดยรัฐบาลมุ่งเน้นยกระดับในการสร้างโอกาสสตรีให้ย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่าบรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี


ในวันนี้โลกมีความท้าทายเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน จะเห็นได้จากสถานการณ์ในวันนี้ ซึ่งมีหลายอย่างผสมผสาน มีความซับซ้อน อ่อนไหวและไม่แน่นอน รวมไปถึงมีความเสี่ยง เราพร้อมเผชิญหน้าสิ่งเหล่านี้อย่างไรก็ด้วยพลังของคนไทยทุกคน เพื่อเดินหน้าประเทศของเราไปยังโลกยุคใหม่โลกแห่งเทคโนโลยีและดิจิทัล หรือได้กำหนดบทบาทของรัฐบาลและประเทศไว้แล้วในการที่จะเดินทางประเทศไทยไปสู่สังคม 4.0


นายกรัฐมนตรี​ กล่าวอีกว่า ต้องคิดเรื่องที่เป็นสาระว่าจะไปอย่างไร​ จะเดินหน้าไปอย่างไร​ โลกไปถึงไหนแล้ว ท้องถิ่นเป็นอย่างไร​ มีอะไรที่พูดจายังไม่เข้าใจกันหรือไม่ เราต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน เห็นด้วยหรือไม่ ก่อนที่ประชาชนจะปรบมือให้กับนายกรัฐมนตรี​ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อว่า​ ตนขอบคุณ​ ที่เป็นคำมั่นสัญญาในจะดูแลให้ดีที่สุด​ ให้มากที่สุด​ โดยเฉพาะรัฐบาล ทุกพรรคร่วม ทุกกระทรวง​ที่เกี่ยวข้องกับทั้งหมด มีทั้งงานพันธกิจ​ งานบูรณาการ​ ช่วยเหลือเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งข้าราชการทุกคนขอให้ทำงานในลักษณะที่เป็นการปรับเปลี่ยน ซึ่งการปฏิรูปการทำงานก็ทำไปหลายอย่างแล้ว ต้องทำความเข้าใจกันให้ได้มากยิ่งขึ้นในสิ่งที่ทำกันใหม่ ๆ​ การปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลง​ ปรับปรุง​ในสิ่งที่ดีขึ้น ไม่ว่าหลายอย่างสังเกตว่ามีอะไรดีขึ้นมาแล้ว​ แม้ว่าในประเทศไทยหลายคนก็มองว่าตัวเองยังลำบาก แต่ก็ต้องมองว่าโอกาสเกิดขึ้นบ้างแล้วหรือยัง ต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง​ ให้ทุกอย่างเป็นโอกาสให้กับทุกคนไปข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างโอกาส รัฐบาลพยายามสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐการดำเนินความสะดวก หากย้อนกลับไปดูพบว่าเปลี่ยนไปมากในวันนี้ โดยเฉพาะการดำเนินการเดินหน้าเชื่อมโยง หลายอย่างเราต้องลงตัวเอง หลายอย่างต้องให้เขาทำ เอกชนร่วมลงทุน เนื่องจากรับทั้งหมดไม่ไหว วันนี้ก็มีภาคเอกชนต้องการร่วมลงทุนกับรัฐกับท้องถิ่นก็พยายามจะปลดล็อกตรงนี้ให้ได้มากที่สุด แต่ต้องระมัดระวัง​ หากเราไม่รักไม่ร่วมมือกัน อะไรก็ไปไม่ได้ทั้งหมด​


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวยอมรับว่า ตนพยายามปรับตัว​ แต่ยอมรับว่าบางทีก็เครียด​ แต่ในวันนี้ไม่เครียด​ ไม่เครียดเพราะเห็นรอยยิ้มของพวกเรา Smile รอยยิ้มสยาม​ ก่อนที่จะเล่าการเข้านำผู้จัดกิจกรรม​ วิ่งเทรลเข้าพบเมื่อช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล​ ตนก็ต้องพยายามยิ้มให้มากขึ้น​ ก่อนที่จะย้ำว่าขอให้รักกันให้มาก ๆ เพราะความสุขในครอบครัวก็จะขยายออกมาข้างนอก​ อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันทำ​ ช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะปัญหาคนเราเยอะพอสมควรแล้ว​


โดยก่อนที่ตนจะเดินทางมา​ ตนคิดก่อนว่าจะมาพูดอะไร ผู้หญิงที่เยอะขนาดนี้​ เพราะที่บ้านมีเพียง 3 คนภรรยาและลูก​ มาที่นี่มาเจอเป็นร้อยคนมาเพื่อให้เกียรติให้กำลังใจทุกคนแล้วขอให้ช่วยกันนำพา เขาเคยบอกกันว่าช้างมี 4 ขา วันนี้ช้างจะเดินไปอย่างไรที่จะเดินไปพร้อม ๆ กัน แต่จะต้องมั่นคงในทางธรรมชาติ​ แม้ว่าทางหลักสรีระเป็นไปไม่ได้​ แต่ต้องนำหลักความคิดเข้ามา​ เนื่องจากสตรีมีความละเอียดอ่อน​ มีความรอบคอบ​ระมัดระวัง​ แต่ผู้ชายมีความเด็ดเดี่ยว อันไหนดีก็สนับสนุนกันไป จะได้ไปด้วยกัน


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า​ สิ่งสำคัญคือความสงบสุขในครอบครัว​ ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด​ เพื่อไม่ให้สังคมของเราเสียหาย เมื่อครอบครัวเสียหายก็จะทำให้ชุมชนสังคมเสียหายตาม ท้ายที่สุดประเทศชาติต้องรับความเสียหายเหล่านั้น ตนจึงขอฝากทุกคนไว้ด้วย ฝากประเทศไทยไว้กับทุกคนเรามีสถาบันหลักของชาติ 3 อย่าง ชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักษากันเอาไว้นานมากแล้ว และเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเราขอให้เดินไปอย่างนี้ อย่างน้อยก็มีศูนย์รวมเป็นจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ในการที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน​ เราจะต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนแก้ไขทำให้ดีขึ้น วันนี้ตนไม่เคยหยุดคิด​ รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด มีหลายร้อยเรื่องที่ต้องทำ แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไปให้ทั่วถึงทุกจังหวัดทุกกลุ่มให้ได้อย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างต้องมีเบื้องต้น มีเดือนหน้า แก้ปัญหาเพื่อจะเดินต่อไป


ในช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ซอฟต์ พาวเวอร์ หรืออำนาจละมุน โดยเฉพาะรอยยิ้มที่เราต้องยิ้มให้กันมาก ๆ แล้วทุกอย่างจะผ่อนคลายไปเอง บางทีตนก็เครียดบ้าง อะไรบ้าง แต่วันนี้ไม่เครียดอะไรเลย เพราะเห็นรอยยิ้มจากผู้ที่มาร่วมงาน เป็น "ยิ้มสยาม" ประเทศไทยเป็นประเทศเดียว ถ้าไม่รัก ไม่ร่วมมือกันก็ไปไม่ได้หมด


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี พยายามจะพูดถึงว่าปีนี้ประเทศไทยจะได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานเอเปค 2022 แต่พูดเพี้ยนเสียง เป็นแอปเปค ก่อนที่จะแก้อีกครั้งว่า เอเปค

คุณอาจสนใจ

Related News