เลือกตั้งและการเมือง

'อนุทิน' ถอดแมสก์กลางงาน 'MOVE ON จาก COVID' เล็งปรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่น กลางเดือนนี้

โดย thichaphat_d

9 มิ.ย. 2565

134 views

วานนี้ (วันที่ 8 มิ.ย.) การประกาศของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีฯสาธารณสุข ในงาน MOVE ON จาก COVID ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ เตรียมพร้อมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โรคประจำถิ่น ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมรองรับในทุกด้าน


ซึ่งการประกาศความพร้อมวันนี้ เป็นที่สังเกตว่า นายอนุทินและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ต่างถอดหน้ากากอนามัยทุกคน แสดงถึงความมั่นใจต่อสถานการณ์โควิดขณะนี้


นายอนุทิน กล่าวว่า การจะถอดหน้ากากอนามัย ไม่ต้องมีคำสั่งให้ถอดหรือใส่ เพราะตอนใส่หน้ากากก็ไม่ได้ มีคำสั่งให้ใส่ เป็นเพียงคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ใครควรใส่ จึงขอให้ดูสถานการณ์ ประเมินสภาพแวดล้อมที่เจอขึ้นอยู่กับการประเมินของตนเอง


ส่วนผู้ประกาศข่าว ของสถานีโทรทัศน์ เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย เป็นเพียงข้อเสนอแนะของกระทรวงฯ ที่แนะนำการปฏิบัติ ไม่เคยมีคำสั่งว่าต้องใส่ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ในกรณีจัดรายการ 1-2 คน มีระยะห่าง ไม่ต้องใส่หน้ากากก็ได้ และต้องประเมินสถานการณ์ในห้องออกอากาศ ถ้าทีมงานฉีดวัคซีนครบโดส ตรวจ ATK แล้วไม่พบเชื้อ ก็สามารถถอดหน้ากากได้ รายการสามารถพิจารณาใส่หรือถอดได้


สำหรับช่อง 3 ประเมินสถานการณ์โควิดขณะนี้ เริ่มคลี่คลายและใกล้เวลาที่ภาครัฐกำหนดให้โควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น จึงมีการผ่อนปรน ยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่าง มีแผงกั้นป้องกันการแพร่กระจายละอองฝอย

-----------

เรื่องวัคซีนโควิด -19 จากกรณี ที่ ชมรมแพทย์ชนบท ออกมาให้ความเห็นว่าการกระจายวัคซีนจำนวน 16.8 ล้านโดสให้กับ รพ. สต. เป็นการนำวัคซีนไปทิ้งขยะหน้าบ้านเพื่อนนั้น นายอนุทิน ยืนยัน ไม่มีใครจะเอาวัคซีนโควิดออกไปทิ้งข้างนอก เพราะวัคซีนถือเป็นสิ่งที่มีค่า เปรียบเหมือนทองคำ ซึ่งหลายคนที่ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขทั้งนั่น


วัคซีน มีประโยชน์ ไม่ใช่ขยะ ถ้า หากบุคลากรไม่เข้าใจแล้วจะสร้างความเข้าใจความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไรต้องมอบหมายให้ปลัดกระทรวง สาธารณสุขเข้าไปทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่กับบุคลากรก่อนหากคนไหนไม่เข้าใจก็ให้เชิญตัวมาพูดคุยต่อหน้า ยืนยัน ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข มีการจัดหาวัคซีนเวชภัณฑ์ ยา ทุกอย่าง ที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ว่าจะรักษาโควิดหรือโรคใดๆ ก็ตาม.


ขอความร่วมมือจากชาวสาธารณสุขทุกท่าน ทุกหน่วยบริการทั้งระดับจังหวัด อำเภอและตำบล ร่วมมือกันเตรียมความพร้อมทางสาธารณสุข ทั้งเรื่องการดูแลรักษาพยาบาล เตียงดูแลรักษา การจัดหาเวชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ และวัคซีนให้มีความเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และขอให้ทุกจังหวัดเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้แผนยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมในเข้าสู่การเป็นโรคประจําถิ่น รวมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนรับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเกณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด-19


ส่วนของการพิจารณาการยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน ในอนาคต นายอนุทิน ระบุว่า เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรีที่จะมีการพิจารณา / แต่ทางการแพทย์ กฎหมายดังกล่าว ก็ใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดี


ขณะที่ นายแพทย์ เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงการปรับลดระดับเตือนภัยโควิด ว่า จะต้องมีการพิจารณาด้วยความระมัดระวังเนื่องจากเพิ่งเริ่มจะผ่อนคลาย สถานบันเทิงไป อาจจะขอประเมินสถานการณ์ก่อน คาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ ที่จะมีการพิจารณาปรับลดระดับเตือนภัยโควิด

----------

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า สธ.แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งป้องกันโรคต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม สธ.ได้เสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) เพื่อพิจารณาแล้ว


“ทั้งกรณีกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ทั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโควิด -19 หรืออีโอซี มีการพิจารณาสถานการณ์ดีขึ้นเป็นไปตามแผน โรคนี้น่าจะเข้าสู่ระยะท้ายๆ แล้ว ทุกจังหวัดเข้าสู่ระยะขาลง (declining) ไม่มีการระบาดใหญ่ เปิดเทอมก็ไม่พบปัญหา เปิดสถานบันเทิงก็ยังไม่พบปัญหา แต่เฝ้าระวังต่อว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ แต่มีการประเมิน คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เราผ่านระยะการระบาดใหญ่มาแล้ว สามารถเข้าสู่การดูแล เฝ้าระวังตามสมควร ส่วนจะประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิด-19 หรือไม่นั้น รอดูสถานการณ์หลังเปิดผับบาร์ก่อน คาดว่ากลางเดือนมิถุนายนนี้”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/vK1GEt-Usj4


คุณอาจสนใจ

Related News