"บิ๊กตู่" อารมณ์ดี ปลื้มการท่องเที่ยวกระเตื้อง เผย พร้อมดึงนักท่องเที่ยวรายได้สูงเข้าสู่ไทย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต และได้เป็นประธาน เปิดสัมมนาการกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทย (Thailand Tourism Congress 2022) ที่โรงแรมบียอนด์ รีสอร์ท กะตะ อำเภอเมืองภูเก็ต พร้อม ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่การท่องเที่ยวคุณภาพที่ยั่งยืน” เพื่อให้การท่องเที่ยวหลังจากนี้ มีความยั่งยืนและสมดุล รวมทั้ง ร่วมกันผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) และเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก (Medical Tourism Destination) ตอบรับแผนการประกาศเปิดประเทศของรัฐบาล ที่เป็นทั้งการฟื้นฟูกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ หลังประสบกับวิกฤตโควิด-19 และยังเป็นการสร้างความพร้อมเมื่อเผชิญใหม่ๆ ในอนาคตอย่างมีแบบแผน มีกรอบเวลาที่ชัดเจน


โดยภายในงานสัมมนา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ชื่นชม รัฐบาลที่แก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จนได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ รวมถึง จัดทำ โครงการภูเก็ตแซนบล็อก นำร่องให้เกิดการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงโครงการ เราเที่ยวด้วยกันทั้ง 4 เฟสที่ผ่านมา ทำให้ภูเก็ต ค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น จากการท่องเที่ยวของคนไทยด้วยกันเอง และทำให้ประเทศเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการเดินทาง มาท่องเที่ยว และเป็นตัวเร่งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย ให้เกิดขึ้น และนำหน้าประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้อย่างน่าชื่นชม


ขณะที่นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปาฐกถา ด้วยการกล่าวทักทาย Are you ready กับผู้ร่วมงาน พร้อมขอบคุณที่ทุกคนให้ความร่วมมือ ดีใจที่ชื่นชมรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ และยินดีที่การตัดสินใจไม่ผิดในการเลือกจ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดนำร่อง


วันนี้จะตัดสินใจเดินหน้าเพิ่ม เพราะการเดินทางมาในครั้งนี้ ได้พบเห็นรอยยิ้มของทุกคน พร้อมบอกด้วยว่าในระหว่างเดินทางมา ได้มองเห็นน้ำทะเล อยากจะกระโดดน้ำทะเล เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีโอกาส ใช้ชีวิตส่วนตัวแบบนั้น ไม่ได้กลัวใคร แต่ไม่อยากเป็นภาระให้บุคคลอื่น


นายกรัฐมนตรี บอกว่า ประเทศไทย เป็นพื้นที่ ๆ เต็มไปด้วยศักยภาพ อยากจะค้นหา อีกทั้งยังเป็นประเทศน่าท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ทั้งเชิงวัฒนธรรม และเชิงสุขภาพ ซึ่งวันนี้เห็นแล้วดีใจ ที่การท่องเที่ยวไทยกำลังเริ่มต้นกลับมาอีกครั้ง จากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมาจากหลายประเทศ โดยเฉพาะได้เห็น นักท่องเที่ยวชาวอินเดียหลายคน ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยว ให้เชื่อมโยงกับจังหวัดอื่นให้เป็นห่วงโซ่ โดยเฉพาะจะต้องมีการวางแผน เพื่อดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงเข้ามาให้มากขึ้น ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาขยะทะเล เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม สะอาด สะดวก และปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ต้องใช้ความรัก ความสามัคคีในการที่จะฝ่าฟันวิกฤติซ้อนวิกฤตที่เกิดขึ้น หรือ เรียกว่า VUCA (วู-คา) ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วบนความแน่นอน และเต็มไปด้วยความท้าทายทุกรูปแบบ รวมถึง เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง ที่ก้าวไปรวดเร็ว


ดังนั้นแผนและยุทธศาสตร์จะต้องปรับตัวให้สามารถตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประเทศไทยมี ซอฟพาวเวอร์ ให้นำมาใช้กับการท่องเที่ยวได้ เพื่อให้คนทั้งโลกเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มประเทศทางตะวันออกกลาง อย่าง ซาอุดีอาระเบีย ก็รอเวลาที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น กิจกรรมพื้นบ้าน รวมถึงของที่ระลึก


นอกจากนี้ยังขอมอบนโยบายให้มียุทธศาสตร์แห่งรอยยิ้ม สร้างเรื่องราวเชื่อมโยงให้สอดคล้อง ให้น่าติดตาม อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ยอมรับ ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายบางฉบับ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว มาตรการที่เกี่ยวข้องกับ ศบค. เพื่อเชื่อมต่ออุตสาหกรรม ซึ่งชั่วโมงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการที่จะอนาคตการท่องเที่ยวไทยไปพร้อมกันและพร้อมจะรับฟังข้อเสนอของการสัมมนาที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย อะไรที่ทำได้ก็จะทำให้ทันที


ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกฯ เป็นคนที่นึกถึงคนอื่นเสมอ อยากให้ทุกอย่าง วันนี้มาก็ให้หัวใจคนภูเก็ตไปหมดแล้ว ผมไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน แต่อาจจะเป็นนานหน่อย แต่มันก็ทำให้งานมันเดิน เพราะเรามียุทธศาสตร์ แต่จะไม่ได้อยู่จนตายคารังเสียเมื่อไหร่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนอยู่แล้ว แต่ในขณะที่อยู่ ก็ขอให้ช่วยกัน ผมพร้อมที่จะยิ้มให้กับทุกคน ความจริงผมเป็นคนใจดีนะ ขอบคุณมากๆ ผมมีความตั้งใจ มีความพยายามสูง แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่เราช่วยกัน


โดยตลอด การปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีสีหน้าน้ำเสียงและกล่าวอย่างอารมณ์ดี พูดคุย หยอกล้อกับผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นระยะ และในขณะที่ นายกรัฐมนตรี ปาฐกถา อยู่นั้นได้มีผู้ร่วมงานตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ”