เลือกตั้งและการเมือง

"ชัชชาติ" ปั่นจักรยาน ลุยสำรวจชุมชนแออัดใจกลางทองหล่อ

โดย taweelap_b

29 พ.ค. 2565

161 views

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. และ ดร.ยุ้ย-เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หัวหน้าทีมนโยบายเศรษฐกิจ “เพื่อนชัชชาติ” ลงพื้นที่เขตวัฒนาร่วมกับ นายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน นักวิจัยสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผอ.เขตวัฒนา และ นายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ว่าที่ ส.ก. เขตวัฒนา พรรคก้าวไกล เพื่อสำรวจชุมชนหลังสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ (สน.ทองหล่อ) ชุมชนริมคลองเป้ง และชุมชนลีลานุช พร้อมเยี่ยมหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยเครือข่ายสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)


ในวันนี้ นายชัชชาติ เดินทางจากบ้านพักส่วนตัวด้วยการปั่นจักรยาน ภายหลังเสร็จภารกิจวิ่งออกกำลังกายกับนักวิ่งเพื่อนชัชชาติที่สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา


นายชัชชาติ กล่าวว่า ทองหล่อเป็นพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ มีชุมชนแออัดในพื้นที่จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ชุมชนหลังสน.ทองหล่อ ชุมชนคลองเป้ง และชุมชนลีลานุช มีประชากรประมาณ 400 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ตั้งที่อยู่อาศัยโดยผิดกฎหมาย ก่อนหน้านี้เคยมาเยี่ยมในช่วงโควิด-19 ระบาด ทราบว่าผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ทำงานในย่านทองหล่อ-เอกมัย และจำเป็นต้องอาศัยใกล้แหล่งงาน ถือเป็นแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง เช่น ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง


ทั้งนี้ กทม. สามารถมีบทบาทด้านการประสานงานกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าโครงการบ้านมั่นคงเพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ส่งเสริมระบบการออมเงินในชุมชน ตลอดจนการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงย้ายที่อยู่อาศัยใหม่


“จะบอกว่าเขาทำผิดกฎหมายแล้วไม่ดูแลเลย ผมว่าทำไม่ได้ เราต้องช่วยหาทางขยับขยาย ผมว่าแนวคิดบ้านมั่นคงดีนะ ให้มีการออมแล้วหาที่เช่าที่ถูกกฎหมาย แล้วขยับขยายไป ขณะเดียวกันช่วงย้ายที่อยู่อาศัยก็ต้องดูแลคุณภาพชีวิต เพราะในบ้านมีทั้งเด็กและคนแก่อยู่ อย่าคิดว่าเป็นสุญญากาศ เราต้องมองเขาเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน ที่มีความยากลำบาก ชีวิตแต่ละวันผ่านไปก็ไม่ง่าย ถ้าต้องมากังวลเรื่องที่อยู่ มันลำบาก แล้วหลายคนก็ทำงานบริเวณนี้แหละ ในทองหล่อ ในเอกมัย เป็นแม่บ้าน เป็นรปภ. เป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นเครื่องจักรของเมืองที่ทำให้เมืองเดินได้ เราต้องดูแลเขาด้วยความเป็นมนุษย์” นายชัชชาติ กล่าว


นอกจากนี้ นายชัชชาติ และ ดร.ยุ้ย ยังได้เยี่ยมชมหน่วยบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า การให้บริการสาธารณสุขของ กทม. มีความซับซ้อน แบ่งเป็นระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ ทั้งนี้ หน้าที่สำคัญที่สุดของ กทม. คือ การให้บริการระดับปฐมภูมิซึ่งถือเป็นด่านแรกในการเผชิญปัญหา ปกติด่านแรกที่ให้บริการคือศูนย์บริการสาธารณสุข ปัจจุบันมีจำนวน 69 แห่งทั่ว กทม. ซึ่งยังพบปัญหาการกระจายศูนย์ไม่ทั่วถึง ห่างไกลบ้านเรือนชุมชน ตลอดจนจำนวนบุคลากรไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงมีนโยบายให้บริการหน่วยสาธารณสุขถึงชุมชนโดยร่วมมือกับภาคเอกชน และ สปสช. และยังมีแนวคิดใช้เทคโนโลยี “เทเลเมด” รถตรวจสุขภาพเชิงรุกถึงชุมชน เพื่อลดต้นทุนเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนเพิ่มจำนวนและส่งเสริมความเข้มแข็งของเครื่องอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ในพื้นที่ กทม. อีกด้วย


“นี่คือตัวอย่างการบริการจัดการสาธารณสุขให้เข้มแข็งในระดับเส้นเลือดฝอย ผมเชื่อว่าทำตรงนี้ให้เข้มแข็งแล้วมันจะเป็นด่านหน้าที่ปะทะ ไม่ต้องให้คนไปป่วยโรงพยาบาลใหญ่ ช่วยลดคิวและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น” นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย

คุณอาจสนใจ

Related News